เปิดประวัติสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่

15 ก.ค. 2561
ที่มา : พุตตี้อินดี้นิวส์28station

ปัจจุบัน เกิดการระบาดของแชร์ลูกโซ่ มากขึ้น ซึ่งมาในรูปแบบธุรกิจขายตรง ชวนลงทุนออมต่างๆ และแชร์ที่เล่นผ่านการออนไลน์ นับวันผู้เสียหายยิ่งมากขึ้น ทั้งข้าราชการ ทั้งรัฐวิสาหกิจ ชาวบ้าน โดยเฉพาะขณะนี้ ได้เริ่มเข้าไปถึงเยาวชน นักศึกษา ซึ่งมิจฉาชีพ ที่อ้างตัวเป็นเจ้าของบริษัท ท้าวแชร์ ได้เห็นช่องว่างทางกฎหมาย ประกอบกับส่วนใหญ่เป็นผู้มีความรู้ หรือเล่ห์เหลียมที่สามารถ หลอกลวงคนได้ทีละหลายร้อย หลายพันคน บางคนต้องกู้หนี้ยืมสิน จำนองบ้านมาเพื่อลงทุนดังกล่าว

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ดีกรีวิศวะไฟฟ้าและมหาบัณฑิตปริญญาโทอีกหลายใบ หนุ่มรุ่นใหม่ที่อายุเพียง30กว่าๆ ที่ทางบ้านมีธุรกิจถือว่าฐานะดี แต่กลับไม่ได้ใช้เวลาไปกับความมั่งคั่ง หากได้เล็งเห็นถึงความโหดร้ายของระบบแชร์ลูกโซ่ ที่เข้ามาทำลายระบบเศรษฐกิจและประชาชนในประเทศไทย จึงได้ก่อตั้ง สมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทยขึ้น ในปี 2558 ที่ผ่านมา เป็นที่รับเรื่องร้องทุกข์ของผู้เสียหายคดีแชร์ลูกโซ่ แชร์ออนไลน์ ตลอดจนผู้เสียหายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีที่เกี่ยวข้อง นั่นเพราะ ความน่าสงสารของผู้เสียหายในคดีนี้คือ ไม่มีหน่วยงานเจ้าภาพรับเรื่องเป็นคดีความ ทำให้ผู้เสียหายต่างหมดหวัง และตัดใจสูญเงินที่ลงทุนไป เคยมีเคสหลายรายถึงกับฆ่าตัวตายเพราะความเครียด ความเสียใจ ในความสิ้นเนื้อประดาตัวดังกล่าว

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย แม้อายุยังน้อย แต่ได้ทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ในการเป็นตัวแทนประชาชนต่อต้านภัยร้ายแห่งของประเทศไทย มีผลงานเป็นที่ประจักษ์โดดเด่น ชัดเจน ซึ่งต้องใช้ความกล้าหาญ เสียสละอย่างมาก เพื่อที่จะยืนหยัดอยู่เคียงข้างประชาชนมาถึง 4 ปีอย่างเสมอต้นเสมอปลาย และสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย เป็นองค์กรภาคเอกชน ไม่มีงบประมาณจากทางรัฐช่วยเหลือ กล่าวคือ นายสามารถ เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายคนเดียวทั้งหมดในการช่วยเหลือประชาชน สังคม โดยไม่ได้ขอรับบริจาคใดใดทั้งสิ้น ซึ่งขณะนี้ชื่อเสียงของสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ได้ถูกยอมรับจากหน่วยงานต่างในประเทศไทยแทบทุกหน่วยงาน

ซึ่งมีข้าราชการระดับสูง ผู้ใหญ่ของทางบ้านเมืองได้กล่าวชื่นชม ในความสามารถ ความเสียสละ เห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน ของนายสามาร เจนชัยจิตรวนิช มากมาย อาทิ พล.อ.(ญ) ดร.ท่านผู้หญิง อภิรดี ยิ่งเจริญ อดีต ราชองครักษ์พิเศษประจำพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 ประธานมูลนิธิรักษ์ป่า พยุงไทย พยุงธรรม เพื่อแผ่นดิน นายสหัส พุกกะมาน อดีตที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง หน่วยงาน สำนักพระราชวัง พลเอกธวัชชัย สมุทรสาคร สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ พันตำรวจโทประวุฒิ วงศ์สีนิล อธิบดีดีเอสไอ และอีกหลายท่าน ที่เห็นการกระทำปิดทองหลังพระของผู้ชายคนนี้ และยกย่องให้เป็นวีรบุรูษที่ปราบแชร์ลูกโซ่

จากคดีแชร์ลูกโซ่ธรรมดา ที่หน่วยงานภาครัฐไม่ค่อยให้ความสนใจ ปัจจุบัน ทั้งทาง กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอ สำนักงานป้องกันการฟอกเงิน หรือ ปปง. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เริ่มมีบทบาท ในการเข้าช่วยเหลือสมาพันธ์ฯ และประชาชนผู้เสียหาย จนปิดคดีดังๆมากมาย เช่น 

- คดียูฟัน อันเป็นคดีใหญ่ที่โด่งดัง 
- คดีคอร์สสัมมนา 
- คดีแชร์ออนไลน์บ้านมิลิน 
- คดีแชร์ออนไลน์บ้านซากุระ 
- คดีแชร์ออนไลน์บ้านสาริกา 
- คดีแชร์ออนน์กุ้งก้ามแดง 
- คดีเหมืองทองKTT 

 ที่มีผู้เสียหายเหยียบหลักแสนคน

ที่ล่าสุดนายสามารถ ได้เข้าร่วมประชุมกับทาง ผู้ว่าจังหวัดคาราช จนมีคำสั่งฟ้องฐานฉ้อโกงประชาชน ในที่สุด และอีกหลายคดีที่อยู่ในกระบวนการบังคับคดี อาทิ 

- คดีแชร์ตู้คอนเทนเนอร์ 
- คดีแชร์เติมเงินมือถือ ไทยสตาร์ 
- คดีแชร์เกมส์ออนไลน์ และคดีที่อยู่ในกระบวนการพิพากษาของศาล อาทิ 
- สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ 1ชีวิต 1ล้าน 
-  หนังสือพิมพ์ตำรวจพลเมือง 
- คดีแชร์เพกาซัส 

 นอกจากนี้ยังมีคดีที่ทาง ดีเอสไอ ขอลงเป็นเจ้าภาพหลักอีกมากมาย อาทิ 

- คดีเจมส์ดิจิตอล 
- คดีสยามแกรนด์ 
- คดีแชร์แอตเกิ้ลเกต และ
- คดีอื่นๆอีกมากมาย

นอกจากดำเนินการเป็นศูนย์กลางพาเหยื่อแชร์ลูกโซ่ร้องเรียนแล้ว นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ยังเปิดโครงการสัมนาอบรมให้ความรู้ภายใต้ชื่อ รู้ทันกลโกงแชร์ลูกโซ่ ทั้งในกรุงเทพ และจังหวัดต่างๆ เช่น จังหวัดโคราช จังหวัดชลบุรี จังหวัดสระแก้ว จังหวัดศีรษะเกษ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดสุโขทัย จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดสงขลา จังหวัดภูเก็ต เป็นต้น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดฯและหน่วยงานภาครัฐ เอกชน รวมถึง ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มาร่วมฟังอบรมเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ โดยในงานสัมมนาจะได้รับเกียรติจาก วิทยากรผู้มีความรู้ด้านแชร์ลูกโซ่ และธุรกิจขายตรง รวมทั้งผู้มีความรู้ด้านกฎหมายมาร่วมบรรยาย จากหน่วยงานปราบปรามชั้นนำของประเทศ อย่าง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ สำนักงานป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. กรมราชทัณฑ์ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. กองบัญชาการกองทัพไทย และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดนั้นๆ

นอกจากนี้สำหรับผู้เสียหายที่เกิดความลำบากจริงๆโดยนำเอกสารหลักฐานมายืนยันต่อสมาพันธ์ ทางสมาพันธ์จะมอบเงินเยียวยาผู้เสียหาย เริ่มต้นที่ 5,000 บาท โดยงบประมาณทั้งหมดมาจาก นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช เพียงผู้เดียว

นายสามารถ ได้เล่าอีกว่า ตนเองไม่ยากเห็นคนไทยหลอกคนไทยด้วยกัน บางคนเดือดร้อนมากเราก็ต้องยื่นมือเข้าช่วย อาจจะมีหลายคำถาม ว่าทำเพื่ออะไร ทำไปทำไม เพราะสมาพันธ์ฯไม่มีรายรับ มีแต่รายจ่าย ซึ่งตนเองบอกได้เลยว่า การได้ทำเพื่อคนอื่น ได้ตอบแทนสังคม นั่นก็คือการตอบแทนคุณแผ่นดินประเทศไทย ตอบแทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์ นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.60 ตนเอง ได้บวชศึกษาธรรม ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร โดยมี สมเด็จพระสังฆราชทรงพระกรุณาเป็นพระอุปัชฌาย์ให้ นับเป็นอีกแรงบันดาลใจในการทำความดีที่จะช่วยเหลือผู้เสียหายที่ด้อยโอกาสทางสังคม ซึ่งทุกวันนี้ตนเองพอเพียงในชีวิต ก็แบ่งปันสู่คนที่ประสบปัญหา แต่ต้องการจะต่อสู้ที่ต้นเหตุปัญหา คือ พวกขบวนการแชร์ลูกโซ่ ให้หมดไปมากกว่า

ซึ่งในปัจจุบันนี้ สมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ได้ทำให้เห็นเป็นรูปธรรม นามธรรม จึงอยากให้ทางรัฐบาลช่วยสนับสนุนแนวคิด 6 ข้อ เพื่อปราบแชร์ลูกโซ่ให้หมดสิ้นไป

1. ให้มีการแก้ไขกฎหมาย เพิ่มโทษผู้กระทำความผิดในฐานฉ้อโกงประชาชน ที่แต่เดิมมีอัตราโทษเพียงแค่ 3-5 ปีเป็น 7-14 ปี เพื่อทำให้มิจฉาชีพติดคุกอย่างต่ำ 50 ปี

2.ภาครัฐควรมีหน่วยงานลักษณะ “One Stop Service บริการแบบเบ็ดเสร็จรับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อในธุรกิจแชร์ลูกโซ่หรือฉ้อโกงโดยเฉพาะ เนื่องจากปัจจุบันประชาชนไม่ทราบที่แจ้งความอย่างชัดเจน

3. รัฐบาลควรมีปฏิบัติการเชิงรุก มีกระบวนการเยียวยาผู้เสียหายให้รวดเร็วขึ้น รวมถึงการสร้างการรับรู้ แสวงหาตรวจสอบและจับกุมผู้กระทำความผิดที่เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือฉ้อโกงประชาชน ไม่รอให้เกิดความเสียหายจำนวนมหาศาลขึ้นก่อน

4.ต้องคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาคดีแชร์ลูกโซ่ทุกคดี เพื่อให้มิจฉาชีพเกรงกลัวต่อกฏหมายที่ผ่านมา ให้ประกันตัวก็หลบหนี หรือไม่ก็ไปหลอกลวงคนอื่นซ้ำอีก เพราะไม่เกรงกลัวต่อบทลงโทษ มีให้เห็นมาแล้วคดีเติมเงินมือถือ และ ในอดีตผ่านมาเช่นคดีแชร์บลิสเชอร์

5. ต้องมีเจ้าภาพทำคดีล้มละลาย เพราะทุกวันนี้ไม่มีใครทำสำนวนฟ้องล้มละลาย จึงทำให้คดีล่าช้า ใช้เวลายาวนานถึง 30 ปี กว่าจะได้รับเงินคืน เช่นคดีแชร์แม่นกแก้ว ที่ผู้เสียหายแจ้งความเมื่อปี พ.ศ.2530 แต่เพิ่งได้รับเงินคืนเมื่อเดือนกรกฏาคม พศ 2560 ที่ผ่านมา

6. ถ้าคดีแชร์ลูกโซ่ ที่มีผู้เสียหายหลายพันคน ขอให้ประหารชีวิต ไม่ต้องจำคุก

ซึ่งเชื่อว่า ถ้าอัตราโทษที่เพิ่มขึ้นจะทำให้คนเกรงกลัว ต่อกฎหมายมากขึ้นและจะกระทำผิดน้อยลง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น