บัวขาว ป.ประมุข

12 มี.ค. 2555
โดยไทยรัฐ เมื่อ 12 มี.ค.2555

หลัง "ดำดอทคอม" บัวขาว ป.ปะมุข หรือชื่อจริงนายสมบัติ บัญชาเมฆ นักชกวัย 29 ปี เจ้าของตำแหน่งแชมป์ เค-วัน สองสมัย และเจ้าของรางวัลนักกีฬาอาชีพดีเด่นของการกีฬาแห่งประเทศไทย หายตัวไปจากค่ายอย่างลึกลับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม พร้อมรถยนต์บี เอ็มดับบลิว สร้างความเป็นห่วงแก่คนในครอบครัวและแฟนมวยชาวไทย เกรงว่าจะเป็นอันตราย และยังทิ้งเงินก้อนโตในการโชว์ตัวในรายการต่างๆอย่างไม่แยแส

แต่ล่าสุดวันที่ 12 มี.ค.เวลา 16.30 น. "บัวขาว" ได้โผล่ตัวพร้อมด้วยสายชล ป.ประมุข เทรนเนอร์คู่ใจ ที่มนตรี สตูดิโอ ซอยลาดพร้าว 101 เพื่อเปิดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยออกมาระบุว่า มีปัญหาด้านจิตใจเล็กน้อย และยังมีอาการบาดเจ็บที่ยังไม่หายดี ทำให้ไม่สามารถที่จะขึ้นชกตามโปรแกรมที่วางไว้ ติดต่อกันหลายไฟล์ได้

ที่สำคัญเกิดความน้อยใจส่วนตัวที่มีต่อ "ธีรพัฒน์ โรจนตัณฑ์" ผู้จัดการ ซึ่งเป็นลูกชายของ "กำนันแก๊" ประมุข โรจนตัณฑ์ หัวหน้าค่าย ป.ประมุข ที่สั่งสมมานานถึง 3 ปี ส่วนเรื่องเงินไม่มีปัญหาแต่อย่างใด และบอกอย่างชัดเจนว่า ได้ตัดสินใจฉีกสัญญากับค่าย ป.ประมุข แล้ว ช่วงนี้ขอพักผ่อนรักษาอาการบาดเจ็บ ยังตอบไม่ได้ว่าจะขึ้นชกได้ช่วงไหน... เป็นอันว่า "ดำดอทคอม" ได้ออกมาเปิดเผยความอัดอั้นภายในแล้วแต่อาจแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ต้องติดตามตอนต่อไปกับการตัดสินใจเรื่องอนาคต

ชื่อ-นามสกุล​ : สมบัติ บัญชาเมฆ

ชื่อเล่น : บัติ

ชื่อในวงการ : บัวขาว ป.ประมุข

ฉายา : ดำดอทคอม, แบล็คโกลด์, ไวท์โลตัส

วันเดือนปีเกิด : วันที่ 8 พฤษภาคม 2525

สถานที่เกิด : จังหวัดสุรินทร์ ประเทศไทย

สัญชาติ : ไทย

ส่วนสูง : 174 เซนติเมตร น้ำหนัก : 70 กิโลกรัม

อาชีพ : นักมวยไทย (รุ่น เฟเธอร์เวท, ไลท์เวท, เวลเธอร์เวท)

สถิติการชก : แข่ง 236 ไฟต์ ชนะ 203 ไฟต์ (ชนะน็อก 51 ไฟต์) แพ้ 21 ไฟต์ เสมอ 12 ไฟต์

ประวัติการชกมวยไทย

- บัวขาว เริ่มชีวิตอาชีพนักมวยไทย ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ที่จ.สุรินทร์ ก่อนย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ สังกัดค่าย ป.ประมุข เมื่ออายุ 15 ปี จากนั้น เขาคว้าเข็มขัดแชมป์มวยไทยมาครองได้อย่างมากมาย รวมถึง แชมป์เวทีมวยสยามอ้อมน้อย รุ่นเฟเธอร์เวท, แชมป์ประเทศไทย รุ่นเฟเธอร์เวท และแชมป์ที่ เวทีสยามอ้อมน้อย อีกครั้ง ในรุ่นไลท์เวท ขณะที่ในปี พ.ศ. 2545 บัวขาว ชนะเลิศมวยไทยมาราธอนโตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ ที่สนามมวยลุมพินี โดยชนะ โคบายาชิ นักชกชาวญี่ปุ่น

- จากนั้น ปี พ.ศ.2547 บัวขาวชนะเลิศ รายการ เค-วัน เวิลด์ แม็กซ์ 2004 ที่ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น โดยชนะ จอห์น เวย์น พาร์ นักมวยไทยชาวออสเตรเลีย, โคะฮิรุยมาคิ และ มาซาโตะ จากญี่ปุ่น และในปีต่อมา บัวขาวเกือบรักษาแชมป์รายการนี้ได้อีกครั้ง โดยแพ้คะแนน แอนดี ซาวเวอร์ จากเนเธอร์แลนด์​ในนัดชิงชนะเลิศ​อย่างน่ากังขา อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ.2549 เขาได้เข้าชิงฯ เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ในรายการนี้ และสามารถเอาชนะ เนียกิ โฮลต์ซเคน จากเนเธอร์แลนด์ ได้สำเร็จ พร้อมคว้าแชมป์​เป็นสมัยที่ 2

- ในปี พ.ศ.2551 บัวขาว แพ้น็อกให้กับ โยชิฮิโร่ ซาโตะ จากญี่ปุ่น โดยแฟนมวยบางส่วนกังขาว่ามีการล้มมวย แต่พิจารณาแล้ว พบว่า บัวขาวแพ้น็อกจริงๆ ด้วยเข่าของ ซาโตะ ทำให้จุกและโดนหมัดฮุกเข้าที่กกหูสลบคาเวที ซึ่งถือเป็นความเสียใจอย่างยิ่งของคนไทยครั้งหนึ่ง

ถัดมา ปี พ.ศ.2552 บัวขาว เข้าแข่งขันรายการ เค-วัน เวิลด์แม็กซ์ โดยสามารถเข้าถึงรอบ 4 คนสุดท้าย แต่ต้องมาแพ้คะแนนให้กับ แอนดี ซาวเวอร์ คู่ปรับเก่าอย่างน่ากังขาอีกหน ทำให้บัวขาวถึงกับออกมาให้สัมภาษณ์ว่า อยากให้กรรมการชี้แจงผลการตัดสิน ซึ่งแฟนมวยเควันต่างก็พากันเห็นใจบัวขาว โดยมีหลักฐานคือ ผลโหวตนักสู้เค-วัน แม็กซ์ ของปีนี้ โดยเขาได้อันดับ 2 เป็นรองเพียง จอร์จิโอ เปโตรเซียน แชมเปียนในปีนั้น

- หลังจากตระเวนแข่งขันอยู่ต่างประเทศหลายปี ในที่สุด บัวขาว มีโอกาสได้โชว์ฝีมือในบ้านเกิดเป็นครั้งแรก ในศึกไทยไฟต์ 2011โดยเขาเป็นฝ่ายชนะน็อก ไมเคิล พิซิเทโล จากฝรั่งเศส ในรอบรอบชนะเลิศ และได้เข้าชิงชนะเลิศ กับ แฟรงค์ จิออร์จี้ จากออสเตรเลีย ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม ในวันที่ 18 ธ.ค.ปี พ.ศ.2554 และ บัวขาวเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้ พร้อมกับครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รุ่น 70 กก.

เกียรติประวัติและผลงานที่ผ่านมา

- แชมป์เวทีมวยสยามอ้อมน้อย รุ่นเฟเธอร์เวท รุ่น 126 ปอนด์
- แชมป์ประเทศไทย รุ่นเฟเธอร์เวท 126 ปอนด์
- แชมป์ที่ เวทีสยามอ้อมน้อย ในรุ่นไลท์เวท
- แชมป์มวยไทยมาราธอนโตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ ที่สนามมวยลุมพินี พ.ศ. 2545
- แชมป์รายการ มวยเค-วัน เวิลด์ แม็กซ์ 2004 (พ.ศ.2547)และ 2006 (พ.ศ.2549) ที่ประเทศญี่ปุ่น
- แชมป์ S1 ซุปเปอร์เวลเธอร์เวท เวิลด์ แชมเปียน
- แชมป์WMC มิดเดิลเวท แชมเปียน
- แชมป์มวยไทยไฟต์ 2011 (พ.ศ.2554) รุ่น 70 กก.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น