นายธาริต เพ็งดิษฐ์

18 ก.ค. 2553

วุฒิการศึกษา 
นิติศาสตรบัณฑิตวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ พ.ศ.2525
เนติบัณฑิต สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา พ.ศ.2527
นิติศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาฯ พ.ศ.2530

ตำแหน่งทางวิชาการ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สาขาวิชานิติศาสตร์ โดยอนุมัติจากทบวงมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2532

หน้าที่การงานปัจจุบัน ดำรงจำแหน่ง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ

---------------------------
เบื้องลึก‘’ธาริต เพ็งดิษฐ์‘’ ‘’ผมไม่มีบุญคุณต้องทดแทนใคร

โดยฐานเศรษฐกิจ เมื่อ 8 ต.ค. 52

ประมาณกลางเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ จะพ้นจากเก้าอี้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.)เพื่อไปรับตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แทนพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ที่ถูกย้ายไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์ว่า ธาริต เป็นสายตรงพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)

ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ธาริต เปิดใจให้สัมภาษณ์ฐานเศรษฐกิจ พร้อมกับท่าทีงุนงง กับเก้าอี้ตัวใหญ่ใน ดีเอสไอว่า ไม่รู้เป็นได้อย่างไร

+ตามที่มีข่าวว่า ท่านเป็นสายตรงพรรคประชาธิปัตย์บ้าง คนของไทยรักไทย ( หรือเพื่อไทยในปัจจุบัน)บ้าง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ไม่จริงครับ ถ้าดูให้ลึกๆ ก่อนผมมาดีเอสไอ ผมช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ทำงานกับน.พ.พรหมินทร์ ( เลิศสุริย์เดช ) อดีตรองนายกรัฐมนตรี ตอนนั้น ต้องการนักกฎหมายจากภาครัฐ จึงขอตัวจากสำนักงานอัยการมาช่วย ผมก็มาช่วยท่าน

หลังจากทำงานกับหมอพรหมินทร์ เสร็จแล้ว ท่านนายกฯ ทักษิณ (ชินวัตร ) และท่านสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นคู่เขยของท่าน มีความคิดที่จะตั้งดีเอสไอ ก็ให้ผมร่างกฎหมายจัดตั้งดีเอสไอ เห็นไหมตอนนั้น ผมทำในฝ่ายรัฐบาลเสื้อแดงเลยนะ

หลังจัดตั้งดีเอสไอ ท่านสมชาย ตอนนั้นเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นคนตั้งผมเป็นรองอธิบดีดีเอสไอ ในยุคก่อตั้งที่มี พล.ต.ท. นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ เป็นอธิบดี

จากสภาพการณ์ที่เกิดขึ้น มักจะมีคนมองว่าผมเป็นคนของเสื้อแดง แต่ความจริงผมไม่เคยฝักใฝ่ฝ่ายใด ผมทำงานแบบมืออาชีพ จะเห็นได้ว่า พอผมมาทำหน้าที่โฆษกกระทรวงยุติธรรม เรื่องถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผมทำตัวเป็นกลาง และไม่มีใบสั่งจากใครเลย ไม่ใช่ต้องเชียร์เสื้อเหลือง แต่ให้ความเห็นด้านข้อกฎหมายให้สังคมได้รับรู้ว่าที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร

อีกอย่างผู้ใหญ่ในรัฐบาลที่ตั้งผมเป็นอธิบดีดีเอสไอ ถามจริงๆเถอะ ท่านจะไม่รู้เลยหรือว่าภูมิหลังผมเป็นอย่างไร ผมคิดว่า ท่านต้องมองที่การทำงานของผมว่าเป็นอย่างไร เป็นข้าราชการฝ่ายประจำ ที่ทำงานแบบมืออาชีพหรือไม่ หรือว่าผมทำงานแบบฝักใฝ่ ถ้าผมมีอาการแบบฝักใฝ่คงไม่เลือกผม ผมต่ออีกว่า ผมทำหน้าที่อย่างไรในคดีสำคัญ ผมทำอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร

+ มีสัญญาณอะไรบอกล่วงหน้าหรือไม่ว่า จะได้เป็นอธิบดี ดีเอสไอ
มีข่าวลือในหนังสือพิมพ์ มาสัก 2 สัปดาห์ ว่าจะมีการโยกย้ายผมสลับกับท่าน ทวี แล้ว ผมก็ไม่ทราบอะไรเลย และไม่ได้ไปถามผู้ใหญ่ท่านใด จนกระทั่งก่อนที่ ครม. จะมีมติไม่ถึง 12 ชั่วโมงท่านรัฐมนตรี (นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม )ก็บอกผม ว่า จะมอบหมายให้ไปทำงานในตำแหน่งอธิบดี ดีเอสไอ

+ ใน ดีเอสไอ มีคดีเงินบริจาคของพรรคประชาธิปัตย์ หนักใจไหมที่ต้องดูแลเรื่องนี้
ผมไม่มีบุญคุณต้องทดแทนใคร ผมไม่หนักใจเรื่องนี้ ผมไม่ได้มาโดยระบบอุปถัมภ์ สิ่งที่ผมต้องทำคือ ทำงานให้ดีที่สุด ตรงไปตรงมา และสร้างความยุติธรรม

+ทำอย่างไรไม่ให้การเมืองแทรกแซงดีเอสไอ และจะล้างภาพลักษณ์นี้อย่างไร
สิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง คือ ผมไม่ได้เป็นคนของพรรคใดพรรคหนึ่ง ถ้าไปดูประวัติแท้จริงผมถูกแต่งตั้งให้เป็นอธิบดี ดีเอสไอ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ในสมัย ท่านสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขณะนั้นนายกรัฐมนตรีคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาถึงวันนี้ผมได้รับการแต่งตั้งโดย ครม. ชุด ประชาธิปัตย์ (ปชป.) โดยท่านพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นรมว.ยุติธรรม ผมจึงไม่ใช่คนของพรรคใดพรรคหนึ่ง ภาพของผมไม่ใช่ภาพที่ติดอยู่กับใครหรือพรรคใด ซึ่งจริงๆก็เป็นเช่นนั้น

ที่สำคัญ ตอนที่ผมถูกเลือกให้เสนอชื่อเป็นอธิบดี ดีเอสไอ ผมยังงงอยู่เลยว่าได้เป็นอธิบดี ดีเอสไอ ได้อย่างไร

+จะใช้เวลาในการจัดระบบการทำงานให้เข้าที่เข้าทางนานแค่ไหน เพื่อปัญหาความขัดแย้งในองค์กร ให้คลี่คลายลง
การที่ผมเข้าไปเป็นอธิบดี ดีเอสไอ ผมเป็นสัญลักษณ์ของพลเรือน คนในดีเอสไอ รู้จักผมดี เพราะผมอยู่มา 4 ปีแล้ว และผมไม่ฝักใฝ่ใคร ผมเชื่อว่า ไม่ว่าผู้บริหารฝ่ายเก่า ฝ่ายใหม่จะคิดว่า คนที่เคยมีอำนาจไม่ต้องถูกล้าง ส่วนคนที่เคยถูกลดบทบาท ก็คิดว่าสามารถทำงานได้ เพราะฉะนั้น โดยธรรมชาติของผมคงเปิดโอกาสให้ผมได้ทำงานเต็มที่ โดยไม่มีใครมาตั้งป้อมกับผม คิดว่าผมจะมาล้างบางใครหรือไม่ เขารู้กิตติศัพท์ผมอยู่แล้วเขาก็ต้องบอกว่า ธาริตไม่ใช่คนแบบนั้น คนที่ไม่ได้ทำงานก็จะมีโอกาสได้ทำงาน ถึงคราวพิสูจน์ที่ผลงาน

ที่มีเสียงวิพากษ์ว่าในดีเอสไอ มีตำรวจมากกว่าพลเรือน ทำให้รู้สึกที่ไม่ดี แต่เมื่อผมมาจากพลเรือน คนน่าจะเปิดโอกาสให้ผมทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ใช่ตั้งป้อมมาแล้วต้องซัดกันอย่างนั้นไม่ใช่แล้ว

+ ตำแหน่งอธิบดีต้องรอโปรดเกล้าฯหรือไม่
ปกติ ต้องรอโปรดเกล้าฯ แต่ทราบว่ากระทรวงจะออกคำสั่งรักษาราชการแทน เพื่อจะได้ทำงานได้ทันที เข้าใจงาน คำสั่งจะออกสัปดาห์หน้า ประมาณ 15 หรือ 20 ตุลาคม นี้ คงต้องไปอยู่ที่ดีเอสไอ

เร็วๆนี้คงได้เห็นการพิสูจน์ ฝีไม้ลายมือ อธิบดีดีเอสไอ คนใหม่

1 ความคิดเห็น:

  1. เมื่อคืนดูสัมภาษณ์ท่านธาริต รายการของ PBS คุณภิญโญสัมภาษณ์ แล้วชอบมาก ถูกใจจริงๆ "เป็นข้าราชการประจำ มีหน้าที่ทำ ต้องทำ" รัตนโกสินทร์ไม่สิ้นคนดีจริงๆ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองคนดีด้วยค่ะ แตงโม

    ตอบลบ