ฟองสนาน จามรจันทร์

1 พ.ค. 2553
นางฟองสนาน จามรจันทร์

นักจัดรายการวิทยุของกรมประชาสัมพันธ์ สังกัด สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) ฝีปากกล้าที่ถูกอำนาจรัฐคุกคาม พื้นเพดั้งเดิมเป็นคน จ.ชัยภูมิ จบการศึกษาระดับมัธยมปีที่ 5 ที่โรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล จากนั้นจึงสอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่น 10 โดยมีเพื่อนร่วมรุ่นที่เป็นสื่อมวลชนด้วยกันเช่น บุญเลิศ ช้างใหญ่ โอภาส เพ็งเจริญ แห่งมติชน และชลิต กิติญาณทรัพย์แห่งประชาชาติธุรกิจ เป็นต้น


เริ่มทำงานครั้งแรกที่หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยุค ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นบรรณาธิการ อยู่ได้ 4 ปี จึงย้ายมาอยู่หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจอยู่ช่วงหนึ่ง จากนั้นจึงสมัครเป็นข้าราชการกรมประชาสัมพันธ์ โดยจับงานข่าวหลายประเภทมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น สังคม เศรษฐกิจ อยู่นานถึง 12 ปี ก่อนที่จะมาปักหลักแน่นอนที่ข่าวการเมือง

ด้วยความเป็นนักข่าวเจนประสบการณ์ รวมระยะเวลาการทำงานด้านนี้ถึง 23 ปี กรมประชาสัมพันธ์จึงได้ให้นางฟองสนาน จัดรายการชื่อ "บันทึกสถานการณ์" ออกอากาศทางวิทยุกรมประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย ทางคลื่น FM.92.5 MHz ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.00 - 09.00 น. ในปี พ.ศ. 2537 คู่กับสุริยง หุณฑสาร โดยเป็นรายการสรุปข่าวประจำ เปิดโอกาสให้ผู้ฟังโทรสายเข้ามาแสดงความคิดเห็น กล้าวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลตรงไปตรงมา ทั้ง ๆ ที่เป็นหน่วยงานราชการแท้ ๆ ทำให้มีผู้ฟังจำนวนมาก

จนกระทั่ง ย่างเข้าสู่ปีที่ 8 คือ ปี พ.ศ. 2545 ในรัฐบาลชุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รายการบันทึกสถานการณ์ก็ถูกถอดออก โดยอ้างเหตุว่า ฝักใฝ่การเมือง โดยเฉพาะพรรคฝ่ายค้าน คือ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่า ไม่เคยเข้าข้างฝ่ายใดหรือแทรกแซงด้านเนื้อหาจากผู้ใด แต่ ยอมรับการถูกถอดถอนโดยดี โดยบอกว่า เป็นเพียงข้าราชการชั้นผู้น้อย ผู้ใหญ่สั่งอะไรมา ก็ต้องปฏิบัติตาม

เมื่อถูกถอดจากรายการแล้ว นางฟองสนาน ยังคงรับราชการอยู่ต่อไป และได้จัดรายการโทรทัศน์ เช่น รายการ "ชีพจรการเมือง" ทางช่องยูบีซี 7 เวลา 21.00-22.00น. ทุกวันอาทิตย์ รายการวิทยุ "คุยเฟื่องเรื่องข่าว" ทาง FM. 99.5 MHz. เวลา 17.00-19.00 น. นอกจากนี้ยังเขียนคอลัมน์ประจำนิตยสารกุลสตรีชื่อ "เกร็ดการเมือง" ซึ่งโด่งดังและประสบความสำเร็จอย่างมา ซึ่งต่อมา สำนักพิมพ์ดอกหญ้า นำไปพิมพ์รวมเล่ม จัดจำหน่ายในชื่อ "เม้าท์สนั่นลั่นสภา" ในปี พ.ศ. 2545 ด้วย

นางฟองสนาน จามรจันทร์ มีครอบครัวแล้ว โดยมีบุตรสาว 1 คน และปัจจุบัน เป็นผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (สวท. หรือ เอ็นบีที) ประจำจังหวัดหนองบัวลำภู

1 ความคิดเห็น: