ยันตระ อมโรภิกขุ หรือวินัย ละอองสุวรรณ
อดีตพระรูปงามจากวัดสุญตารามกาญจนบุรี
รูปงามบวกกับลีลาการเทศน์ไพเราะจับใจ
ทำให้มีชื่อเสียงมีลูกศิษย์ทั่วประเทศ
ไปเทศน์ที่ใดมักได้รับการต้อนรับแน่นขนัด
หากในเวลาเดียวกันเริ่มมีข่าวเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศ
กับสตรีผู้ใกล้ชิดถึงขั้นมีบุตรด้วยกัน
แต่ก็หนีความจริงไม่พ้นเมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่ง
กล้าเปิดเผยว่าเป็นภรรยาของพระรูปงามที่มีลูกด้วยกัน
แต่อดีตพระยันตระไม่ยอมรับ
และออกเทศนาธรรมเช่นเดิม
จนทางมหาเถรสมาคมหาข้อยุติ
โดยการพยายามจะนำเด็กสาว
ที่ถูก อ้างว่าเป็นบุตรของยันตระมาพิสูจน์ดีเอ็นเอ
และเชิญยันรตระมาพิสูจน์เช่นกัน
แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ
เมื่อถูกกดดันมากอยู่นาน
ยันตระจึงตัดสินใจเปลื้องจีวรออกหันไปนุ่งเขียวห่มเขียว
และหลบออกนอกประเทศไปสหรัฐอเมริกา
จนถึงบัดนี้ก็ไม่ได้รับผิดข้อกล่าวหาใดๆทั้งสิ้น
----------------------------------
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
นายวินัย ละอองสุวรรณ หรือที่รู้จักดีในชื่อ อดีตพระยันตระ อมโรภิกขุ (พระวินัย อมโร) เป็นชาวนครศรีธรรมราช เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม (ไม่ทราบ พ.ศ.) เป็นที่รู้จักดีเนื่องจากท่านเคยเป็นพระสงฆ์นักปฏิบัติธรรมชื่อดังที่มีผู้เคารพศรัทธามากของเมืองไทยและต่างประเทศในช่วงหนึ่ง ก่อนจะถูกฟ้องคดีกล่าวหาว่าต้องปาราชิกาธิกรณ์และถูกมติมหาเถรสมาคมลงให้พ้นจากภาวะพระภิกษุ และหลบหนีออกนอกประเทศใน พ.ศ. 2537 ไปอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาในสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองจนถึงปัจจุบัน
ประวัติ
นายวินัย ละอองสุวรรณ เป็นชาวนครศรีธรรมราช ก่อนอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ท่านได้ปฏิบัติตนเป็นนักพรตฤๅษีอยู่หลายปีจนเป็นที่รู้จักกว้างขวาง ต่อมาได้อุปสมบทเป็นพระสงฆ์ในธรรมยุติกนิกายเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 ณ พัทธสีมาวัดรัตนาราม อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
พระวินัย เมื่ออุปสมบทมักใช้คำแทนตัวว่า พระยันตระ ซึ่งแปลว่าผู้ไกลจากกิเลส ที่เคยใช้มาตั้งแต่ยังเป็นฤๅษียันตระ
เมื่อบวชแล้วเป็นที่รู้จักดีทำให้มีผู้ศรัทธาบวชเพื่อเข้าเป็นลูกศิษย์มากมาย ทำให้ท่านมักแวดล้อมไปด้วยพระสงฆ์คอยอุปัฏฐากอยู่เสมอ ๆ นอกจากนี้ยังมีผู้ศรัทธาสร้างสำนักวัดถวายท่านหลายแห่ง โดยทุกวััดที่สร้างในสำนักท่านจะใช้คำว่า "สุญญตาราม" ประกอบด้วยเสมอ สำนักที่เป็นที่รู้จักดีคือ วัดป่าสุญญตาราม กาญจนบุรี และยังมีสำนักวัดป่าสุญญตารามของท่านในต่างประเทศอีกหลายแห่ง เช่นที่ วัดป่าสุญญตาราม เมืองบันดานูน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น
ด้วยวัตรปฏิบัติรวมถึงคำสอนของท่าน ทำให้พระวินัยถือเป็นพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในยุคนั้น มีการตีพิมพ์เผยแพร่คำสอนรวมถึงได้รับนิมนต์ไปเทศนายังที่ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ คำสอนของท่านเน้นแนวทางปฏิบัติกรรมฐานซึ่งได้รับการยอมรับจากนักวิชาการศาสนาว่าถูกต้องกับพระไตรปิฎก
อย่างไรก็ดี ในปี พ.ศ. 2537 ท่านได้ถูกฟ้องร้องหลายข้อหาและถูกตั้งอธิกรณ์ว่าล่วงละเมิดเมถุนธรรมปาราชิกาบัติ อันเป็นหนึ่งในจตุตถปาราชิกาบัติที่ทำให้ขาดจากความเป็นพระภิกษุตามพระวินัยบัญญัติ โดยมีการต่อสู้ด้วยพยานหลักฐานมากมายตามสื่อต่าง ๆ เป็นข่าวโด่งดังในสมัยนั้น จนในที่สุดท่านได้ถูกมติมหาเถรสมาคมพิจารณาอธิกรณ์ปรับให้ท่านพ้นจากความเป็นพระภิกษุ เพราะพิจารณาได้ความว่าท่านต้องอาบัติหนักดังที่ถูกฟ้องร้อง แต่นายวินัยไม่ยอมรับมติสงฆ์ดังกล่าว ด้วยการปฏิญาณตนว่ายังเป็นพระภิกษุและเปลี่ยนสีจีวรเป็นสีเขียว ทำให้ถูกสื่อต่าง ๆ ขนานนามว่า จิ้งเขียว, สมียันดะ, ยันดะ เป็นต้น
ก่อนที่นายวินัยจะลักลอบทำหนังสือเดินทางปลอมเพื่อหลบหนีออกจากประเทศไทยไปอยู่ในสหรัฐอเมริกาและได้รับสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง ทำให้นายวินัยสามารถหลบหนีคดีความอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้จนถึงปัจจุบัน
นายวินัย ละอองสุวรรณ หรือที่รู้จักดีในชื่อ อดีตพระยันตระ อมโรภิกขุ (พระวินัย อมโร) เป็นชาวนครศรีธรรมราช เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม (ไม่ทราบ พ.ศ.) เป็นที่รู้จักดีเนื่องจากท่านเคยเป็นพระสงฆ์นักปฏิบัติธรรมชื่อดังที่มีผู้เคารพศรัทธามากของเมืองไทยและต่างประเทศในช่วงหนึ่ง ก่อนจะถูกฟ้องคดีกล่าวหาว่าต้องปาราชิกาธิกรณ์และถูกมติมหาเถรสมาคมลงให้พ้นจากภาวะพระภิกษุ และหลบหนีออกนอกประเทศใน พ.ศ. 2537 ไปอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาในสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองจนถึงปัจจุบัน
ประวัติ
นายวินัย ละอองสุวรรณ เป็นชาวนครศรีธรรมราช ก่อนอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ท่านได้ปฏิบัติตนเป็นนักพรตฤๅษีอยู่หลายปีจนเป็นที่รู้จักกว้างขวาง ต่อมาได้อุปสมบทเป็นพระสงฆ์ในธรรมยุติกนิกายเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 ณ พัทธสีมาวัดรัตนาราม อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
พระวินัย เมื่ออุปสมบทมักใช้คำแทนตัวว่า พระยันตระ ซึ่งแปลว่าผู้ไกลจากกิเลส ที่เคยใช้มาตั้งแต่ยังเป็นฤๅษียันตระ
เมื่อบวชแล้วเป็นที่รู้จักดีทำให้มีผู้ศรัทธาบวชเพื่อเข้าเป็นลูกศิษย์มากมาย ทำให้ท่านมักแวดล้อมไปด้วยพระสงฆ์คอยอุปัฏฐากอยู่เสมอ ๆ นอกจากนี้ยังมีผู้ศรัทธาสร้างสำนักวัดถวายท่านหลายแห่ง โดยทุกวััดที่สร้างในสำนักท่านจะใช้คำว่า "สุญญตาราม" ประกอบด้วยเสมอ สำนักที่เป็นที่รู้จักดีคือ วัดป่าสุญญตาราม กาญจนบุรี และยังมีสำนักวัดป่าสุญญตารามของท่านในต่างประเทศอีกหลายแห่ง เช่นที่ วัดป่าสุญญตาราม เมืองบันดานูน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น
ด้วยวัตรปฏิบัติรวมถึงคำสอนของท่าน ทำให้พระวินัยถือเป็นพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในยุคนั้น มีการตีพิมพ์เผยแพร่คำสอนรวมถึงได้รับนิมนต์ไปเทศนายังที่ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ คำสอนของท่านเน้นแนวทางปฏิบัติกรรมฐานซึ่งได้รับการยอมรับจากนักวิชาการศาสนาว่าถูกต้องกับพระไตรปิฎก
อย่างไรก็ดี ในปี พ.ศ. 2537 ท่านได้ถูกฟ้องร้องหลายข้อหาและถูกตั้งอธิกรณ์ว่าล่วงละเมิดเมถุนธรรมปาราชิกาบัติ อันเป็นหนึ่งในจตุตถปาราชิกาบัติที่ทำให้ขาดจากความเป็นพระภิกษุตามพระวินัยบัญญัติ โดยมีการต่อสู้ด้วยพยานหลักฐานมากมายตามสื่อต่าง ๆ เป็นข่าวโด่งดังในสมัยนั้น จนในที่สุดท่านได้ถูกมติมหาเถรสมาคมพิจารณาอธิกรณ์ปรับให้ท่านพ้นจากความเป็นพระภิกษุ เพราะพิจารณาได้ความว่าท่านต้องอาบัติหนักดังที่ถูกฟ้องร้อง แต่นายวินัยไม่ยอมรับมติสงฆ์ดังกล่าว ด้วยการปฏิญาณตนว่ายังเป็นพระภิกษุและเปลี่ยนสีจีวรเป็นสีเขียว ทำให้ถูกสื่อต่าง ๆ ขนานนามว่า จิ้งเขียว, สมียันดะ, ยันดะ เป็นต้น
ก่อนที่นายวินัยจะลักลอบทำหนังสือเดินทางปลอมเพื่อหลบหนีออกจากประเทศไทยไปอยู่ในสหรัฐอเมริกาและได้รับสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง ทำให้นายวินัยสามารถหลบหนีคดีความอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้จนถึงปัจจุบัน
ท่าน สอน คน ดีมาก คนเรา จะไปเอา อะไร กันมากมาย
ตอบลบมีพระอีก เป็นหมื่นองค์ ที่ไม่รู้จักสอนชาวบ้าน ดีแต่เป็นผู้รับ อย่างเดียว
จริงครับผมเห็นทั้งกินเหล้า ทั้งด่าพระพุธรูป ทั้งชี้หน้า แต่ก็ยังเป็นพระให้ผู้อื่นกราบไหว้
ลบระลึกถึงท่านมากๆ..เมื่อไหร่ท่านจะกลับเมืองไทย..เรยีนาระลึกถึงท่านอยู่เสมอ
ตอบลบอย่ากไปอเมริกาแต่ไม่มีบุญวาสนาแต่ก่อนจะสิ้นลมหายใจจะขอเจอท่านอีกสักครั้ง
ระลึกถึงอยู่ทุกลมหายใจ..นิรมล
ผลที่ผ่านมาผู้ที่กล่าวหาท่านได้ออกมายอมรับแล้วว่าที่กล่าวหาท่านไม่เป็นความจริง
ตอบลบศรัทธาที่ไม่เคยเปลี่ยน....เชื่อและมั่นใจกับความตั้งใจของพระอาจารย์ยันตระ....
ตอบลบสอนให้เราเป็นคนดีมีคุณธรรม...ใครมองท่านผิดๆ.....ก็คงต้องไปเกิดใหม่...เกิดใหม่ก็ไม่รู้จะได้เกิดเป็นคนหรือป่าวนะ
ท่าน.ทรงเป็นอรหันต์ยันตระ.
ตอบลบIt is alright if he want to be like that. American is the land of the free he can do whatever he want. People will worship or not is up to them as long as he is not against civil law.
ตอบลบมีผู้ขอให้ท่านพระอาจารย์กัณหา เจ้าตำหรับธุดงค์มือหนึ่งของเมืองไทยสหธรรมิกสนิทท่านยันตระ แสดงความคิิดเห็นเกี่ยวกับเรืองนี้ ท่านกล่าวอย่างไม่เป็นทางการว่า เรื่องนื้ หำใคร หำมัน อาตมาจะไปรู้ำำหำคนอื่นได้อย่างไร .....
ตอบลบผมว่า ดูแลหำตัวเองให้ดี อยู่ในร่องในรอย ก็แล้วกันนะครับ อย่าไปยุ่งหำคนอื่นเลย ขนาดหำตัวเองยังคุมไม่ค่อยอยู่....เฮ้อ...คิดไปแล้วก็เหนี่อยแทนนะครับ..
จาก ลุง นกน้อย..
เมืองไทยคนดีๆ อยู๋ยากครับ พระยันตระน่ะ ผมคนหนึ่งที่รู้จักท่านดี และที่อยู๋ในอเมริกาผมก็มาหาท่านคุยกันและเห็นปฏิปทาท่าน เรื่องสีกาน่ะมันไม่มีความจริงสักอย่างแต่เรื่องนี้ละเอียดละออมากๆ แต่ที่สำคัญที่สุดที่น้อยคนนักที่จะรู้คือท่านเสพเมถุนไม่ได้หรอกครับ(มันเกี่ยวกับอวัยวะบางอย่างในตัวท่าน)แต่ที่ท่านทำผิดที่เห็นๆกันคือท่านชอบออกกำลังกายนี่แน่นอนครับ แต่ท่านไม่แคร์หรอกครับ พวกผมที่นับถือท่านก็ไม่แคร์หรอกครับถามจริงๆ เถอะท่านไปทำร้ายไครครับ มีแต่โดนทำร้าย ทำร้ายท่านทำไมเหรอ? ผมไม่เคยเห็นท่านทำร้ายไครแม้ด้วยคำพูด มีแต่หลบเลี่ยงบ้างเพื่อไม่ให้เจ็บหนัก สาหัส ก็แค่นั้น ท่านทำร้ายพุทธศาสนาเหรอ? ไปดูกันด้วยตาสิว่าพระที่มาสอนศาสนาพุทธในอเมริกานั้นไครจะทำได้ดีเท่าท่าน เฮ้อ สนุกกันนักเหรอที่ได้ทำร้ายท่าน ก่อเวรกันทำไมเหรอ ชาวพุทธ !!!
ตอบลบจริงๆค่ะ..ประเทศไทยคนดีอยู่ยาก...เห็นเยอะแล้วโดยเฉพาะพระดีๆเก่งๆเป็นเนื้อนาบุญ..จะโดนตลอด...ติดตามเป็นกำลังใจให้พระยันตระท่านตลอด..มั่นใจว่าท่านถูกใส่ความ
ลบจริงๆค่ะ..ประเทศไทยคนดีอยู่ยาก...เห็นเยอะแล้วโดยเฉพาะพระดีๆเก่งๆเป็นเนื้อนาบุญ..จะโดนตลอด...ติดตามเป็นกำลังใจให้พระยันตระท่านตลอด..มั่นใจว่าท่านถูกใส่ความ
ลบรักษาจิตให้ดี ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง
ตอบลบรักษาใจอย่าให้พร่อง ความเศร้าหมองจะหมดไป
หนทางพิสูจน์กำลังม้า กาลเวลาพิสูจน์คน
ได้ข่าวท่านเมื่อยังเยาว์วัย...จนบัดนี้ศึกษาเรื่องของท่านอีกครั้ง...มั่นใจว่าท่านเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบลบรักษาจิตไว้ให้ดี ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง มีสติอย่าให้พร่อง ความเศร้าหมองจะหมดไป (ศิษย์)
ลบ