กระแต - นักร้องนักมวยหญิง
นิภาพร แปงอ้วน หรือกระแต ซึ่งเป็นชื่อเล่น เป็นชาวลำปางโดยกำเนิด พ่อเป็นคนลำปาง ส่วนแม่เป็นชาวพิจิตร เธอมีผิวดำตามเนื้อเพลง “ไม่ได้ตั้งใจดำ” ที่ร้องว่า“ดำตามแม่ แม่พาดำ” ซึ่งเป็นเพลงแรกของเธอที่มีคนพอรู้จัก
กระแตมีพี่น้อง 4 คน โดย 3 คนแรกเป็นผู้หญิงทั้งหมด ตัวเธอเป็นคนที่ 2 เพราะยังมีน้องสาวและน้องชายอีกฝ่ายละ 1 คน
ครอบครัวมีฐานะแบบหาเช้ากินค่ำ ตัวเธอเรียนหนังสือจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนเคนเนธ แม็คเคนซี่ และมาต่อชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนอรุโณทัย โดยจบมาทางสายวิทย์ – คณิต ก่อนมาต่อที่มหาวิทยาลัยศรีประทุม
ตอนเด็กกระแตมีนิสัยออกในแนวบู๊ๆแบบเด็กผู้ชาย เพราะเป็นคนติดพ่อ ขณะที่พ่อนั้นชอบมวยไทย เธอก็เลยมีโอกาสตามพ่อไปดูมวยเป็นประจำ ก็เลยชอบมวยไปด้วย นอกจากนั้น ตอนด็กเธอก็ยังชอบกีฬ่าผู้ชายอื่นๆ เช่น ตะกร้อ ฟุตบอล ชนไก่ด้วย
ท้ายที่สุด สาวน้อยกระแตในวัย 12 ปี ก็ได้ขึ้นเวทีชกมวยนัดแรก เมื่อตามพ่อไปดูมวยแล้วนักชกหญิงเกิดขาด พ่อเลยส่งขึ้นชก ผลปรากฏว่าเธอเป็นฝ่ายชนะน็อคยก 2 เธอบอกว่าในนัดแรก เตะลูกเดียวเพราะชกไม่เป็น ในการชกครั้งแรกได้เงินรางวัลมา 300 บาท เธอดีใจมาก เพราะไม่เคยคิดว่าจะได้
หลังการชกในครั้งแรก 2 พ่อลูกพยายามปกปิดไม่ให้แม่รู้ แต่แม่ก็รู้จนได้เมื่อเพื่อนบ้านไปเล่าให้ฟัง แต่หลังจากนั้น เธอก็แอบไปชกอีกเรื่อยๆ ซึ่งบางครั้งก็โดนแม่ว่า แต่ก็ยังชกอยู่เรื่อย ในช่วงหลังๆ นอกจากการเตะแล้ว ก็เริ่มมีเข่ามาบ้าง
หลังเริ่มชกมวยอย่างเป็นกิจจะลักษณะ พ่อของเธอก็ตั้งค่ายมวยเล็กๆ มีกระสอบทราย 2 ใบ ชื่อศักดิ์บุญมา ตามชื่อครูมวยของค่ายที่ชื่อ ศักดิ์กับบุญมา และเธอก็ขึ้นชกมวยในชื่อน้ำหวานน้อย ศักดิ์บุญมา เพราะแม่เธอมีชื่อเล่นว่าน้ำหวาน
สำหรับความสามารถในด้านการร้องเพลงนั้น ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากสายเลือดเพราะ แม่กับพ่อเคยเป็นนักร้องตามผับ และก็พบรักกันที่นั่น ตัวเธอร้องเพลงมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ เธอชอบเพลงของพุ่มพวง ดวงจันทร์ เนื่องจากแม่ชอบฟัง และชอบเปิดวีซีดีคอนเสิร์ตพุ่มพวง นอกจากนั้นเธอก็ยังชอบฝน ธนสุนทรด้วย ทำให้เธออยากเป็นนักร้องตั้งแต่เด็ก เพราะอยากหาเงินมาให้แม่
การที่ลุงของเธอมีวงดนตรีอิเล็คโทน เธอก็เลยไปร้องเพลง และเป็นหางเครื่องในวงของลุง เพื่อช่วยลุง และช่วยพ่อแม่หารายได้อีกทาง
ไปๆมาๆ คนก็เลยเรียกเธอว่านักร้องนักมวยมาตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ และเมื่อใครรู้ ก็จึงมักขอให้เธอร้องเพลงหลังจากชกมวย บางงานไปร้องเพลง พอร้องเสร็จ ก็ขึ้นชกมวยต่อก็มี ทำเอาคนดูดนตรีแห่ไปดูมวยกันยกเวที
เมื่อมีโอกาส พ่อก็ยังพาเธอไปประกวดร้องเพลงหลายเวที และก็มาชนะเลิศรายการลูกทุ่งเยาวชนที่กรุงเทพ ที่ศูนย์เยาวชนไทย – ญี่ปุ่น หลังจากงานนี้ก็มีการเชิญเธอมาออกรายการทีวีในฐานะนักร้องนักมวย
ต่อมามีแมวมองชื่อธงชัย พึ่งฤทธิ์ ที่เคยประกวดมาด้วยกันจะพาเข้าบริษัทค่ายเทป แต่ตอนนั้นเธอติดเรียน ก็เลยยังไม่ได้ตัดสินใจ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ถูกชักชวนให้มาตั้งเป็นคณะโฟร์ทีน ร่วมกับสามสาวจากราชบุรี ก็พอดีศุภชัย นิลวรรณ หรือเสี่ยเณรแห่งอาร์สยามติดต่อมาให้มาเทสต์เสียงที่อาร์ สยาม เมื่อเจอกัน เสี่ยเณรก็บอกว่าสนใจในตัวเธอหลังจากที่เห็นในโทรทัศน์
ในที่สุด เธอเลยได้ออกผลงานชุดแรกกับเพื่อนสามคนในนามลูกทุ่งโฟร์ทีนชื่อ “ ยิ้มแล้วรวย “โดยในนั้น เธอร้องเพลงอยู่เพลงหนึ่ง ชื่อ “ ไม่ได้ตั้งใจดำ “ ขณะที่ผู้คนทั่วไปก็เรียกเธอว่า “ กระแตโฟร์ทีน “
ต่อมา “เสี่ยเณร “ ติดต่อส่งไปชกมวยที่ญี่ปุ่น 3 ไฟท์ ซึ่งเธอก็ชนะคะแนนทั้งหมด ระหว่างที่ไปชกที่ญี่ปุ่น เธอเริ่มเป็นที่รู้จักในเพลง “ ไม่ได้ตั้งใจดำ “
แต่โดยรวมแล้ว หลังจากออกผลงานชุดแรก เธอยังไม่ดังมากนัก คือเงินยังไม่ค่อยได้ ประกอบกับต้องลงทุนโปรโมตตัวเอง ต้องขับรถขึ้นล่องกรุงเทพ - ลำปางเป็นประจำ เงินก็ไม่ค่อยมี บางครั้งก็ต้องจอดรถนอนตามปั้ม เธอก็เลยหยุดไปเรียนต่อจนจบชั้นมัธยมปลาย ในช่วงนั้นไม่ค่อยมีงานร้องเพลง มวยก็ไม่ค่อยได้ต่อย เรียนเป็นหลัก
พอเรียนจบ ก็กลับมาคุยกับอาร์สยามอีกครั้ง และได้ทำเพลงอีกชุด แต่เป็นการทำเดี่ยว ท้ายที่สุด เธอก็ได้ออกผลงานเดี่ยวครั้งแรกในชีวิตชื่อ “ เปิดใจสาวแต “ คราวนี้เธอประสบความสำเร็จอย่างสูง เมื่อมีการนำเอาเพลงพื้นบ้านทางเหนือมาพัฒนาเป็นแนวสากล
นำเพลงรอนานๆมันทรมาน มาให้ฟังกันครับ
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต
ครอบครัวมีฐานะแบบหาเช้ากินค่ำ ตัวเธอเรียนหนังสือจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนเคนเนธ แม็คเคนซี่ และมาต่อชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนอรุโณทัย โดยจบมาทางสายวิทย์ – คณิต ก่อนมาต่อที่มหาวิทยาลัยศรีประทุม
ตอนเด็กกระแตมีนิสัยออกในแนวบู๊ๆแบบเด็กผู้ชาย เพราะเป็นคนติดพ่อ ขณะที่พ่อนั้นชอบมวยไทย เธอก็เลยมีโอกาสตามพ่อไปดูมวยเป็นประจำ ก็เลยชอบมวยไปด้วย นอกจากนั้น ตอนด็กเธอก็ยังชอบกีฬ่าผู้ชายอื่นๆ เช่น ตะกร้อ ฟุตบอล ชนไก่ด้วย
ท้ายที่สุด สาวน้อยกระแตในวัย 12 ปี ก็ได้ขึ้นเวทีชกมวยนัดแรก เมื่อตามพ่อไปดูมวยแล้วนักชกหญิงเกิดขาด พ่อเลยส่งขึ้นชก ผลปรากฏว่าเธอเป็นฝ่ายชนะน็อคยก 2 เธอบอกว่าในนัดแรก เตะลูกเดียวเพราะชกไม่เป็น ในการชกครั้งแรกได้เงินรางวัลมา 300 บาท เธอดีใจมาก เพราะไม่เคยคิดว่าจะได้
หลังการชกในครั้งแรก 2 พ่อลูกพยายามปกปิดไม่ให้แม่รู้ แต่แม่ก็รู้จนได้เมื่อเพื่อนบ้านไปเล่าให้ฟัง แต่หลังจากนั้น เธอก็แอบไปชกอีกเรื่อยๆ ซึ่งบางครั้งก็โดนแม่ว่า แต่ก็ยังชกอยู่เรื่อย ในช่วงหลังๆ นอกจากการเตะแล้ว ก็เริ่มมีเข่ามาบ้าง
หลังเริ่มชกมวยอย่างเป็นกิจจะลักษณะ พ่อของเธอก็ตั้งค่ายมวยเล็กๆ มีกระสอบทราย 2 ใบ ชื่อศักดิ์บุญมา ตามชื่อครูมวยของค่ายที่ชื่อ ศักดิ์กับบุญมา และเธอก็ขึ้นชกมวยในชื่อน้ำหวานน้อย ศักดิ์บุญมา เพราะแม่เธอมีชื่อเล่นว่าน้ำหวาน
สำหรับความสามารถในด้านการร้องเพลงนั้น ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากสายเลือดเพราะ แม่กับพ่อเคยเป็นนักร้องตามผับ และก็พบรักกันที่นั่น ตัวเธอร้องเพลงมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ เธอชอบเพลงของพุ่มพวง ดวงจันทร์ เนื่องจากแม่ชอบฟัง และชอบเปิดวีซีดีคอนเสิร์ตพุ่มพวง นอกจากนั้นเธอก็ยังชอบฝน ธนสุนทรด้วย ทำให้เธออยากเป็นนักร้องตั้งแต่เด็ก เพราะอยากหาเงินมาให้แม่
การที่ลุงของเธอมีวงดนตรีอิเล็คโทน เธอก็เลยไปร้องเพลง และเป็นหางเครื่องในวงของลุง เพื่อช่วยลุง และช่วยพ่อแม่หารายได้อีกทาง
ไปๆมาๆ คนก็เลยเรียกเธอว่านักร้องนักมวยมาตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ และเมื่อใครรู้ ก็จึงมักขอให้เธอร้องเพลงหลังจากชกมวย บางงานไปร้องเพลง พอร้องเสร็จ ก็ขึ้นชกมวยต่อก็มี ทำเอาคนดูดนตรีแห่ไปดูมวยกันยกเวที
เมื่อมีโอกาส พ่อก็ยังพาเธอไปประกวดร้องเพลงหลายเวที และก็มาชนะเลิศรายการลูกทุ่งเยาวชนที่กรุงเทพ ที่ศูนย์เยาวชนไทย – ญี่ปุ่น หลังจากงานนี้ก็มีการเชิญเธอมาออกรายการทีวีในฐานะนักร้องนักมวย
ต่อมามีแมวมองชื่อธงชัย พึ่งฤทธิ์ ที่เคยประกวดมาด้วยกันจะพาเข้าบริษัทค่ายเทป แต่ตอนนั้นเธอติดเรียน ก็เลยยังไม่ได้ตัดสินใจ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ถูกชักชวนให้มาตั้งเป็นคณะโฟร์ทีน ร่วมกับสามสาวจากราชบุรี ก็พอดีศุภชัย นิลวรรณ หรือเสี่ยเณรแห่งอาร์สยามติดต่อมาให้มาเทสต์เสียงที่อาร์ สยาม เมื่อเจอกัน เสี่ยเณรก็บอกว่าสนใจในตัวเธอหลังจากที่เห็นในโทรทัศน์
ในที่สุด เธอเลยได้ออกผลงานชุดแรกกับเพื่อนสามคนในนามลูกทุ่งโฟร์ทีนชื่อ “ ยิ้มแล้วรวย “โดยในนั้น เธอร้องเพลงอยู่เพลงหนึ่ง ชื่อ “ ไม่ได้ตั้งใจดำ “ ขณะที่ผู้คนทั่วไปก็เรียกเธอว่า “ กระแตโฟร์ทีน “
ต่อมา “เสี่ยเณร “ ติดต่อส่งไปชกมวยที่ญี่ปุ่น 3 ไฟท์ ซึ่งเธอก็ชนะคะแนนทั้งหมด ระหว่างที่ไปชกที่ญี่ปุ่น เธอเริ่มเป็นที่รู้จักในเพลง “ ไม่ได้ตั้งใจดำ “
แต่โดยรวมแล้ว หลังจากออกผลงานชุดแรก เธอยังไม่ดังมากนัก คือเงินยังไม่ค่อยได้ ประกอบกับต้องลงทุนโปรโมตตัวเอง ต้องขับรถขึ้นล่องกรุงเทพ - ลำปางเป็นประจำ เงินก็ไม่ค่อยมี บางครั้งก็ต้องจอดรถนอนตามปั้ม เธอก็เลยหยุดไปเรียนต่อจนจบชั้นมัธยมปลาย ในช่วงนั้นไม่ค่อยมีงานร้องเพลง มวยก็ไม่ค่อยได้ต่อย เรียนเป็นหลัก
พอเรียนจบ ก็กลับมาคุยกับอาร์สยามอีกครั้ง และได้ทำเพลงอีกชุด แต่เป็นการทำเดี่ยว ท้ายที่สุด เธอก็ได้ออกผลงานเดี่ยวครั้งแรกในชีวิตชื่อ “ เปิดใจสาวแต “ คราวนี้เธอประสบความสำเร็จอย่างสูง เมื่อมีการนำเอาเพลงพื้นบ้านทางเหนือมาพัฒนาเป็นแนวสากล
นำเพลงรอนานๆมันทรมาน มาให้ฟังกันครับ
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต