ด.ต.ปราโมยท์ แก้ววิจิตร ตชด.ผู้บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่

22 พ.ย. 2553
จากเวบ http://goo.gl/OejNz

ด.ต.ปราโมยท์ แก้ววิจิตร เจ้าหน้าที่ ตชด. ผู้รับผิดชอบดูแลทรัพยากรธรรมชาติของไทย ที่อุทยานแห่งชาติตาพระยา  โดยเมื่อปี 2548 ได้รับบาดเจ็บ ถึงพิการ เสียแขนขา จากกับระเบิดของโจรเขมร ที่ลักลอบตัดไม้พยุง
Read more ...

นายไชยวัฒน์ พุ่มพวง ช่างภาพอาวุโส เหยื่อกระสุนกระชับพื้นที่

21 พ.ย. 2553
โดยข่าวสด เมื่อ 20 พ.ย.2553

เมื่อวันที่ 20 พ.ย. นายไชยวัฒน์ พุ่มพวง ช่างภาพสำนักข่าวเนชั่น ซึ่งถูกยิงด้วย

ปืนทาโวร์

ที่ต้นขาขวาจนกระดูกและเส้นเลือดแตก ขณะปฏิบัติหน้าที่ถ่ายภาพเหตุการณ์กระชับพื้นที่ บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ให้สัมภาษณ์ "ข่าวสด" ว่า ขณะนี้อาการดีขึ้น 70-80 เปอร์เซ็นต์ แต่อาการปวดยังมีอยู่ ไม่สามารถลงน้ำหนักที่ขาได้ และเกิดผลกระทบตามมาอีกคือขาขวาสั้นกว่าข้างซ้าย 1 นิ้ว ต้องอาศัยไม้เท้าช่วยพยุงขณะเดิน

นายไชยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้รักษาตัวอยู่ที่ร.พ.พญาไท 1 นาน 2 เดือน 15 วัน ได้รับการผ่าตัด 4 ครั้ง เพื่อเอากระดูกที่แตกออก และใส่เหล็กเป็นแกนในแทน เมื่อกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านยังต้องไปพบแพทย์อีกเดือนละครั้ง เนื่องจากกระดูกบางส่วนยังไม่เชื่อมติดกัน และต้องกินวิตามินเสริมกระดูก นอกจากนี้ยังต้องทำกายภาพทุกวัน วันละ 3-4 ช.ม. ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ โดยแพทย์ระบุว่าต้องใช้เวลารักษาอีกอย่างน้อย 2 ปี

นายไชยวัฒน์ เล่าเหตุการณ์วันเกิดเหตุว่า ช่วงสายวันที่ 15 พ.ค. ตนและช่างภาพอีกคนตระเวนถ่ายภาพบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง และซอยรางน้ำ มีชาวบ้านเห็นเป็นช่างภาพสื่อมวลชนจึงเรียกขอร้องให้ช่วยนำศพที่ถูกยิงออกมาจากจุดเกิดเหตุ เพราะกลัวว่าถ้าเข้าไปเอาออกมาเองจะโดนทหารยิง ตนก็เข้าไปช่วยนำออกมาได้ ช่วงบ่ายหลังจากพักกินข้าวกันเรียบร้อย ก็ออกไปตระ เวนถ่ายภาพบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดงต่ออีก ขณะนั้นมีผู้ชุมนุมประมาณ 60 คนเริ่มมารวมตัวกันแล้ว และนำยางรถยนต์มาวางกั้นฝั่งปั๊มน้ำมันเชลล์ แต่ยังไม่มีเหตุรุน แรงอะไร

ช่างภาพเหยื่อปืนทาโวร์ กล่าวอีกว่า ขณะที่ตนเดินไปอีกทางหนึ่ง ได้ยินเสียงปืนยิงมาจากฝั่งของทหาร จึงหันกลับไปมอง ตอนแรกคิดว่าทหารจะยิงขู่เพียง 2-3 นัดแล้วหยุด แต่ปรากฏว่ายังระดมยิงใส่ฝั่งที่วางยางรถยนต์อย่างต่อเนื่อง ตนเดินถอยหลังไปด้วยพร้อมกับยกกล้องขึ้นถ่ายรูปคนที่ถูกยิงด้วย แต่ยังไม่ทันถ่ายก็ถูกยิงร่วงลงไป จึงถอยไปนั่งพิงหลังกับกำแพง และบอกเพื่อนช่างภาพที่อยู่ใกล้ๆ กันว่าถูกยิง ขณะนั้นขาขวารู้สึกชา มีเลือดไหล และหักพับไป ตนต้องกัดฟันจับขามาวางให้ตรงเหมือนเดิม แต่ก็ยังออกจากบริเวณนั้นไม่ได้ เพราะทหารยังระดมยิงเข้ามาไม่หยุด

นายไชยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ตนโทรศัพท์บอกเพื่อนช่างภาพสำนักข่าวเดียวกันว่าถูกยิง จากนั้นต้นสังกัดประสานไปยัง ศอฉ. ขอให้หยุดยิง แต่ทหารก็ยังไม่หยุด ยังระดมยิงอย่างหนักต่อไปอีกราวครึ่งชั่วโมง โดยเป็นการยิงมาจากฝั่งทหารเพียงฝ่ายเดียว เท่าที่เห็นผู้ชุมนุมมีเพียงมือเปล่า ยางรถยนต์ และกระบอกพลุเท่านั้น และก็เริ่มหนีแตกกระ จายกันไปแล้ว ภายหลังทราบว่าบริเวณเดียว กันนี้ มีผู้ชุมนุมไปเสียชีวิตที่ร.พ.อีก 3 ราย

"สาเหตุที่ผมถูกยิงทั้งๆ ที่สวมปลอกแขนแสดงตนว่าเป็นสื่อมวลชนชัดเจน อาจเป็นเพราะทหารไม่ต้องการให้ถ่ายภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น และจุดที่ผมยืนอยู่ก็อยู่คนละด้านกับผู้ชุมนุม กระสุนที่ยิงมาจึงไม่น่าจะเป็นลูกหลง เมื่อการยิงยุติ มีทหารเข้ามานำผมออกไป และสอบถามว่าเห็นผู้ชุมนุมมีปืนหรือไม่ ผมบอกว่าไม่เห็น" ช่างภาพเหยื่อปืนทาโวร์ กล่าว

นายไชยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ขณะรักษา ตัว สำนักข่าวต้นสังกัดประสานกระทรวงสาธารณสุขให้ออกค่ารักษาให้ จากนั้นได้รับเงินช่วยเหลือจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อีก 1 แสนบาท ขณะนี้ตนเตรียมฟ้องร้องหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบปฏิบัติการกระชับพื้นที่ครั้งนั้น โดยกำลังอยู่ในขั้นตอนปรึกษาผู้มีความรู้ทางกฎหมาย เพื่อดูว่าจะฟ้องร้องช่องทางใดได้บ้าง

"ตัวผมเองได้รับการดูแลส่วนหนึ่งแล้ว แต่อยากให้คิดถึงอนาคตที่สูญเสียไปด้วย ผมกลับไปทำงานอย่างที่ต้องการไม่ได้ สูญเสียการปฏิบัติหน้าที่ไปเลย อยากให้รัฐบาลดูแลเราบ้าง ไม่เฉพาะผมเท่านั้น แต่รวมถึงผู้ชุมนุม และชาวบ้านคนอื่นๆ ที่ได้ผลกระ ทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย" นายไชยวัฒน์กล่าว

นายไชยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ตนและเพื่อนช่างภาพ ผู้สื่อข่าว ร่วมกันก่อตั้งกองทุนเพื่อเพื่อน Photo For Friends เป็นกองทุนเพื่อช่วยเหลือช่างภาพมืออาชีพในทุกสายข่าว และทุกสำนักข่าว กรณีได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยอยากให้กรณีของตนเป็นกรณีตัวอย่าง พร้อมกันนี้ยังจัดทำเสื้อยืดรูปช่างภาพ 3 คน จับมือประสานกัน แสดงให้เห็นว่า เราพร้อมช่วยเหลือเพื่อน ช่วยกันประคองเพื่อนที่ล้มอยู่ให้กลับยืนขึ้นมาได้ เงินที่ได้จากการจำหน่ายเสื้อจะสมทบกอง ทุนดังกล่าว

ผู้สนใจติดต่อได้ที่ 08-1839-9997 หรือ 08-9494-9182 วันที่ 25 พ.ย. ถึง 1 ธ.ค. นี้ จะจัดนิทรรศการ For Friends ครั้งที่ 1 ที่ชั้น 3 Living Gallery 1 สยามพารากอน แสดงภาพถ่ายเหตุการณ์สลายการชุมนุม และเวทีเสวนากับช่างภาพข่าวของไทย
Read more ...

รัชนก อินทนนท์

16 พ.ย. 2553
โดยประชาชาติธุรกิจ เมื่อ 1 ก.พ.2553

สำหรับวงการแบดมินตันไทยแล้ว ในปีนี้ก็ยังต้องจับตา

"รัชนก อินทนนท์" หรือ "น้องเมย์" สาวน้อยดาวรุ่งวัย 15 ปี

เมื่อปีที่แล้วในวัย 14 ปี ได้สร้างผลงานอย่างยอดเยี่ยมตลอดทั้งปี เช่น ฮานอย แซตเทลไลต์ แชมป์ประเทศไทย และแชมป์หญิงเดี่ยวเยาวชนโลก จนได้รับรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม ประจำปี 2009 จากสหพันธ์แบดมินตันโลก

ปีนี้ "รัชนก" ก็มีโปรแกรมแข่งขันที่เข้มข้นอีกปีหนึ่ง

เริ่มจากในวันที่ 30 มกราคม เธอจะลงแข่งรายการเยาวชนภาคกรุงเทพฯและปริมณฑลของเอสซีจี ระดับ 18 ปี

รายการต่อมาเธอคาดว่าจะเป็นหนึ่งในแบดมินตันอูเบอร์คัพของไทย เพื่อแข่งขันรอบคัดเลือกประเภททีมหญิงโซนเอเชีย ระหว่าง วันที่ 21-28 ก.พ.นี้ ที่ จ.นครราชสีมา

ส่วนรายการที่สำคัญระดับเยาวชน จะมีการคัดเลือกเพื่อไป แข่งขันระดับเอเชียและระดับโลกรุ่นในอายุไม่เกิน 16 และ 19 ปี

"อายุหนูได้ทั้ง 16 และ 19 โดยรุ่น 19 เป็นการคัดในระดับ เอเชียที่มาเลเซีย จะได้ไป 2 ประเทศ โดยรุ่น 19 เป็นการคัดในระดับเอเชีย ถ้าได้ก็จะไปแข่งแบดมินตันเยาวชน ชิงแชมป์โลกที่เม็กซิโก ส่วนรุ่น 16 จะไปแข่ง ที่อิหร่าน"

ในเอเชี่ยนเกมส์ปลายปี ที่กว่างโจว ประเทศจีน รัชนกคิดว่าตัวเองน่าจะได้เป็นตัวแทนทีมชาติไปแข่งด้วย

เธอยังต้องลงแข่งขันในรายการที่เก็บคะแนนเพื่อทำอันดับให้ติด 1 ใน 30 ของโลกให้ได้ เป้าหมายเพื่อไปโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ทำให้รัชนกต้องลงแข่งขันเก็บคะแนนในทุกภาคพื้น โดยในเอเชียถือว่ายากที่สุดเพราะแชมป์จะอยู่ที่จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ขณะที่โซนยุโรปหรือโซนอื่นจะเก็บคะแนนได้ง่ายกว่า ขึ้นอยู่กับสมาคม ฯ ว่าจะวางแผนอย่างไร

"ต้องเริ่มเก็บสะสมแต้มตั้งแต่ตอนนี้ โดยจะต้องลงแข่งขันในระดับโอเพ่นมากขึ้น เช่น ไทยแลนด์โอเพ่นที่มาเลเซีย และเกาหลีโอเพ่น"

สำหรับอันดับหญิงเดี่ยวในไทยนั้นมือ 1 เป็น สลักจิต พลสนะ ส่วนรัชนกน่าจะอยู่อันดับ 3 เพราะพรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข มีอันดับโลกสูงกว่า

ในวันที่รัชนก อินทนนท์ อายุ 15 ปี ดูตัวเธอโตขึ้น สูงขึ้น โดยพี่เลี้ยงบอกว่า "เธอกินเก่ง"

รัชนกเริ่มเรียนแบดมินตันมาตั้งแต่อายุน้อย ๆ หาประสบการณ์ต่างประเทศมาหลายแห่ง ตอนนี้เธออยู่ ม.3 ที่โรงเรียนกสิณธรอาคาเดมี่ ภาคสามัญ เพราะต้องให้เวลาฝึกซ้อมที่สโมสรบ้านทองหยอด ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับโรงเรียน เธอจึงกินนอนประจำอยู่ที่สโมสรเลย

รัชนกจะตื่นตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง บริหารร่างกาย กำลังขา เพื่อจะได้มีกำลังปะทะกับรุ่นพี่ในแมตช์ใหญ่ ๆ ได้ 7 โมงครึ่งไปเรียนหนังสือถึงบ่าย 3 โมง ได้พัก 1 ชั่วโมง จากนั้นจะซ้อมลูกเบสิก ตีลูกแม่นยำ เสร็จแล้วยังต้องเรียนเสริมด้านการบ้านเพราะขาดเรียนจากการเดินทางไปแข่งขัน จนช่วง 1-3 ทุ่มต้องซ้อมอีกรอบหนึ่ง

นี่คือภารกิจใน 1 วันของรัชนก อินทนนท์ ทำให้เธอมีวันนี้ได้

เมื่อถามว่าตัวเธอเองมีจุดเด่นตรงไหน และมีจุดด้อยที่ต้องปรับปรุงตรงไหนบ้าง ?

รัชนกบอกว่า จุดเด่นอยู่ที่การออกลูกที่แม่นยำ พยายามตีไม่ให้เสียเอง ส่วนจุดด้อยคือกำลังที่ยังไม่อึดพอ เพราะกระดูกเบอร์ยังไม่ถึง ต้องใช้วิทยาศาสตร์การกีฬามาช่วย

สำหรับเพื่อนร่วมรุ่นที่มีฝีมือไล่เลี่ยกัน รัชนกว่าเป็น เมธาณี พัฒนพิฑูรย์ อยู่สโมสร บ้านทองหยอดเหมือนกัน

ส่วนคู่แข่งสโมสรอื่น อย่างเช่น ที่เอสซีจีอะคาเดมี สิงห์เอชเอช ฯลฯ รัชนกตอบแบบซื่อ ๆ ว่า "เวลาที่เขาตีกับหนู ทำไมเขาไม่ค่อยสู้กับหนูก็ไม่รู้"

เมื่อปีที่แล้วรัชนกกวาดมาหลายรางวัล แล้วปีนี้ตั้งเป้าหมาย อย่างไร ?

รัชนกตอบเสียงดังฟังชัดว่า "อยากได้แชมป์ให้เยอะกว่าปีที่แล้ว อย่างระดับรองแชมป์ก็ขอให้ได้แชมป์ แม้ระดับเอเชี่ยนเกมส์จะมีจีนร่วมการแข่งขันแต่ก็อยากได้แชมป์"

และสำหรับคนที่ติดตามเธอนั้น เธอว่า "อยากให้ติดตามตลอดไป หนูจะทำผลงานให้ดีที่สุดเท่าทงจะทำได้"

ต้องติดตามผลงานของรัชนกกันว่า ปีนี้เธอจะเดินหน้าตามฝันไปได้ไกลแค่ไหน ?

----------------------------------

ชื่อ : รัชนก อินทนนท์

ชื่อเล่น : เมย์

เกิด : วันที่ 5 ก.พ. 2538 บ้านเกิดร้อยเอ็ด

บิดาชื่อ : วินัสชัย อินทนนท์

มารดาชื่อ : คำผัน สุวรรณศาลา

เริ่มเล่นแบดมินตัน : อายุ 6 ขวบ

ผู้ฝึกสอน+ผู้ดูแล : กมลา ทองกร ผู้อำนวยการโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด

นักกีฬาในดวงใจ : จางหนิง อดีตแชมป์โลก และมือ 1 ของโลกชาวจีน

ความใฝ่ฝัน : มือ 1 ของโลก และเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์

(ล่าสุดเมื่อ 10 ต.ค.2553 เป็นมือวางอันดับ 62 ของโลก คว้าแชมป์หญิงเดี่ยว เวียดนามกรังด์ปรีซ์ 2010 โดยเอาชนะนักแบดจีน โจว ฮุ้ย 2-0 เซต )
Read more ...

นายจรัญ หัตถกรรม

9 พ.ย. 2553
จากวิกิพีเดีย

นายจรัญ หัตถกรรม ตุลาการหัวหน้าคณะ ศาลปกครองสูงสุด
เกิดเมื่อ 10 มกราคม พ.ศ. 2481

อดีตตุลาการรัฐธรรมนูญ

ประวัติการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (พ.ศ. 2506)
เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา (พ.ศ. 2507)
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 33 ( พ.ศ. 2534)

ประวัติการรับราชการ-ผู้ช่วยผู้พิพากษา (18 ธันวาคม 2510 ถึง 18 ธันวาคม 2511)
-ผู้พิพากษาประจำกระทรวง
-ผู้พิพากษาศาลจังหวัดปราจีนบุรี
-ผู้พิพากษาประจำกระทรวงช่วยราชการศาลอุทธรณ์
-ผู้พิพากษาศาลแขวงธนบุรี (19 ธันวาคม 2511 ถึง 30 กันยายน 2519)
-ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำกระทรวง
-ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดไชยา
-ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดปทุมธานี (1 ตุลาคม 2519 ถึง 31 มีนาคม 2526)
-ผู้พิพากษาศาลแพ่งและผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลแพ่ง (1 เมษายน 2526 ถึง 30 เมษายน 2530)
-รองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 8 และภาค 6 (1 ตุลาคม 2530 ถึง 16 เมษายน 2532)
-รองปลัดกระทรวงยุติธรรม (17 เมษายน 2532 ถึง 17 พฤศจิกายน 2535)
-รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงยุติธรรมและเป็นคณะกรรมการตุลาการโดยตำแหน่ง (2 ตุลาคม 2534 ถึง 6 ธันวาคม 2534) (7 ตุลาคม 2535 ถึง 17 พฤศจิกายน 2535)
-รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง (18 พฤศจิกายน 2535 ถึง 3 ตุลาคม 2536)
-ผู้พิพากษาศาลฎีกาและผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา (4 ตุลาคม 2536 ถึง 30 กันยายน 2542)
-ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอาญา (1 ตุลาคม 2542 ถึง 21 กุมภาพันธ์ 2543)
-ตุลาการศาลปกครองสูงสุด (27 มีนาคม 2543 ถึง ปัจจุบัน)

เครื่องราชอิสริยาภรณ์เหรียญจักรพรรดิมาลา (5 ธันวาคม 2531)
มหาวชิรมงกุฎ (5 ธันวาคม 2532)
มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (5 ธันวาคม 2537)

ประวัติการตัดสินคดีสำคัญ ๆ และคดียุบพรรค
นายจรัญได้ชื่อว่าเป็นผู้พิพากษาจอมเฮี้ยบ มีผลงานที่เป็นที่กล่าวขานในสังคมมากมาย เช่น 

เป็นเจ้าของสำนวนคดีการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จนนำไปสู่คำสั่งของศาลปกครอง ให้ยกเลิกการแปรรูป กฟผ.เพิกถอนการกระจายหุ้น รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นผู้เสนอกฎหมายแปรรูปฉบับนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้กล่าวเพียงแค่ว่า "มันเป็นการผิดพลาดทางเทคนิค"

อีกทั้งเป็นหนึ่งในตุลาการผู้ตัดสิน คดีเพิกถอนคำวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการกรณีสัมปทานไอทีวี ซึ่งส่งผลให้บริษัท ไอทีวี ต้องจ่ายค่าสัมปทานและค่าปรับมูลค่ากว่าแสนล้านบาทแก่สำนักนายกรัฐมนตรี

ในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคไทยรักไทย ในระหว่างการพิจารณาคดีเคยโต้เถียงกับนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล และนายสมศักดิ์ โตรักษา ทนายความของพรรคไทยรักไทยในห้องพิจารณาคดีมาแล้ว

ในคำพิพากษาส่วนของนายจรัญ ตัดสินให้ยุบพรรคไทยรักไทยและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 111 คน เป็นระยะเวลา 5 ปี
Read more ...

หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ

3 พ.ย. 2553
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

พระพรหมมังคลาจารย์ (ปั่น ปัญญานันโท) (11 พฤษภาคม พ.ศ. 2454 - 10 ตุลาคม พ.ศ. 2550) หรือที่รู้จักกันดีทั่วไปคือ

หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ 

ท่านเป็นที่รู้จักในฐานะพระสงฆ์ผู้ปฏิรูปแนวทางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระสงฆ์ไทย ผู้เป็นสหธรรมิกร่วมอุดมการณ์คนสำคัญของพระธรรมโกษาจารย์ (เงื่อม อินทปัญโญ) และผู้อุทิศชีวิตให้กับการเผยแผ่พระพุทธศาสนาจนวาระสุดท้ายของชีวิต

พระพรหมมังคลาจารย์กำเนิดที่ ตำบลคูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2454 เดิมมีนามว่า ปั่น เสน่ห์เจริญ หลังใช้ชีวิตฆราวาสจนมีอายุได้ 18 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดอุปนันทนาราม จังหวัดระนอง โดยมี พระรณังคมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดนางลาด อ.เมือง จ.พัทลุง โดยมี พระจรูญกรณีย์ เป็นอุปัชฌาย์เมื่อปี พ.ศ. 2474

ท่านมรณภาพวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ด้วยอาการปอดอักเสบและไตวาย ที่โรงพยาบาลศิริราช สิริอายุรวม 96 ปี
Read more ...