ศ.ดร.ธงชัย วินิจจะกูล นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ชาวไทย
เกิดและโตที่กรุงเทพ ประเทศไทย
อดีตเป็นผู้นำนักศึกษาซึ่งถูกจับกุมในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
ย้ายไปสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2534
ปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประวัติศาสตร์ไทย
ที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน แมดิสัน สหรัฐอเมริกา
สาขาที่สนใจคือประวัติศาสตร์วัฒนธรรมและวิทยาการของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยุคต้นสมัยใหม่และสมัยใหม่ (คริสต์ศตวรรษที่ 19 และต้น 20)
โดยเฉพาะการปะทะกันระหว่างสังคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอารยธรรมตะวันตก,
ประวัติศาสตร์สยาม/ไทย โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ของความรู้ แนวคิด และนักคิด,
และการเมืองวัฒนธรรมไทยสมัยใหม่ ตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ถึงปัจจุบัน,
ชาตินิยม,
ภูมิศาสตร์ การแผนที่ ประวัติศาสตร์ที่อันตราย ความทรงจำ และ
วิธีที่สังคมจัดการกับอดีตที่เป็นปัญหาเหล่านั้น
ธงชัยจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
ปริญญาตรีจากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ
ปริญญาโทและเอกจาก มหาวิทยาลัยซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ที่มา เวบไซต์ voicetv 23 ธันวาคม 2552
บทสัมภาษณ์ ศ.ดร.ธงชัย วินิจจะกุล ทัศนะเกี่ยวกับอนาคตของประเทศไทยในช่วงการเปลี่ยนผ่าน ท่ามกลางความแตกแยก ขัดแย้งทางความคิด ในรายการ intelligence กับจอม เพ็ชรประดับ รับฟังเต็มๆ ได้ที่ www.voicetv.co.th/programs/intelligence/
‘การเปลี่ยนแปลงของสังคม 20-30 ปีที่ผ่านมา เกี่ยวพันกับวิถีชีวิตคนในชนบท คนชนบทไม่เหมือนเดิม แต่ก่อนจะรอรัฐบาล รองบประมาณมาโปรด ปัจจุบัน เขามีชีวิตอยู่กับเมือง เข้าใจการเมืองมากกว่าที่เราคิด การเลือกตั้งมีบ่อยครั้งพอ ที่คนชนบทรู้จักใช้เป็นช่องทางที่สามารถเข้ามาขอมีส่วนแบ่งการมีส่วนร่วมอำนาจทางการเมือง ชาวบ้านและคนจนเมือง รู้จักการเมืองมากขึ้น เขาไม่ถูกใช้หรือถูกหลอก การปฏิเสธเสียงของเขา คือรากฐานของความขัดแย้งขณะนี้’
‘คำว่า ประชาชนถูกซื้อด้วยฝ่ายการเมืองด้วยเงิน ตอบได้เลยว่า ไม่จริง’
‘การซื้อเสียง กลางปี 2520 กับปัจจุบัน ต่างกัน การซื้อเสียง ไม่เป็นปัจจัยกำหนดการเลือกตั้งอีกแล้ว ชาวบ้านเขารู้แล้วว่า การรับเงิน เป็นการส่งผลระยะสั้น … การจ่ายเงินซื้อเสียงระยะหลัง เป็นการจ่ายเพื่อไม่ให้ตนเสียเปรียบ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตนได้เปรียบ’
'ประเด็นการอ้างว่า ทำงานไม่ได้เพราะคุณทักษิณ ...คุณก็หยุดไล่ล่าซะ ทำงานเถอะ การอ้างว่า เพราะทักษิณ ทำให้ทำงานไม่ได้ แสดงคุณภาพ และฝีมือในการทำงานของตัวพวกคุณ... คนมหาศาลเชื่อว่า คุณน่าจะทำงานได้ โดยไม่ต้องไล่ล่าทักษิณ'
‘คุณห้ามความขัดแย้งทางความคิดไม่ได้ เป็นเรื่องปกติ แต่ควรขัดแย้งบนฐานความรู้ ปัญญา มากกว่า’
‘สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ใช้กฎหมายที่เป็นธรรม กระบวนการต้องเที่ยงธรรม แค่นั้นแหละ คนในกระบวนการยุติธรรม อาทิ ตำรวจ อัยการ ศาล ต้องเที่ยงธรรม แค่นั้นแหละ’
‘คนที่บอกว่า ประเทศจะล่มจม วิกฤตที่สุดในโลก ก่อนรัฐประหาร จึงต้องไล่ทักษิณออกไป ถามว่า หลังรัฐประหาร เสียหายหนักกว่าไหม ผมว่าหนักกว่าเยอะนะ หนักกว่านั้นเยอะเลย มันไม่ช่วยอะไรขึ้นมา ถ้าปล่อยให้เกิดการเลือกตั้ง ยอมรับผลการเลือกตั้ง ถ้าคนเหล่านั้นทุจริต ก็สู้กันไปตามกรอบ ให้คนได้เรียนรู้ พิสูจน์ว่าสิ่งที่เขาทำ มันผิด มันไม่ดีเอง แต่มันก็ไม่ทำให้เสียหายเท่ากับที่เกิดในปัจจุบัน’
‘การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ จะราบรื่นโดยไม่มีความขัดแย้งเป็นไปไม่ได้’
‘การจับเข่าสมานฉันท์ เป็นเรื่องตลก จะแตกหักไหม บอกไม่ได้’
'อะไรแก้ความขัดแย้ง ....กระบวนการประชาธิปไตย ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ ให้คนที่ประชาชนเลือก ได้บริหาร ต้องเคารพกติกา อย่าออกกติกาที่ทำร้ายคนอื่น ต้องตัดสินตามกติกาของกฎหมาย อย่างยุติธรรม’
‘ประชาธิปไตยไม่ต้องสอน ให้คิดถึงส่วนรวมให้ถูกต้อง อย่าคิดแต่มุมมองส่วนตัว’
‘ชาตินิยมเหมือนไฟ คุณเล่นไม่ดี นอกจากลวกมือคุณแล้ว จะเผาบ้านด้วย คุณจะควบคุมไม่ได้ ผมดูถูกคนที่ชาตินิยมฝังหัว ว่าล้าหลัง ใจแคบ คิดอะไรตื้นๆ … ชาตินิยมไม่ช่วยอะไรเท่าไร คุณแคร์กับเพื่อนร่วมชาติ ไม่จำเป็นต้องชาตินิยม อันนี้สำคัญกว่า แชร์ความห่วงใย พอใจ ไม่พอใจ กับคนอื่น ใครก็ได้ ชาตินิยม คือความใจแคบ ไม่เมตตากรุณา ไม่มองคนอื่นในแง่ดี น่าเสียใจที่คนเป็นแบบนี้’
‘ต้องปล่อยให้คนแสวงหาความคิด ความเห็น กล้าคิด กล้าแสดง ไม่ใช่ปิดกั้น’
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น