"เดนิลสัน" สูงสุดคืนสามัญ

23 ส.ค. 2552


พูดถึงชื่อ เดนิลสัน แล้ว หากใครเป็นแฟนบอลบราซิล คงรู้จักเป็นอย่างดี เพราะถือเป็นนักเตะดังอีกรายในบรรดาแข้งแซมบ้าด้วยกัน ถึงขั้นที่เคยสร้างสถิติเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกมาแล้ว เมื่อครั้งย้ายไปร่วมทีมรีล เบติส ด้วยค่าตัว 32 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อปี 1998 และยังเป็นนักเตะตัวหลักของบราซิลชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 2002 ด้วย

แต่ล่าสุด ดูเหมือนว่าชีวิตของแข้งดังวัย 31 ปี ในวันนี้ไม่ได้หอมหวานเหมือนในอดีตนัก

ข่าวคราวที่แฟนบอลได้รับรู้เกี่ยวกับกองกลางรายนี้ คือเจ้าตัวตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับสโมสร ไห่ฟง ในวีลีกของเวียดนามที่มีนักเตะดังของบ้านเราค้าแข้งอยู่หลายคน และเพิ่งเซ็นสัญญาร่วมทีม 6 เดือนไปเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าสร้างกระแสฮือฮาให้กับแฟนบอลเวียดนามอย่างยิ่ง เพราะเป็นนักเตะต่างชาติที่ดังที่สุดเท่าที่เคยมาเล่นในลีกของเวียดนามนั่นเอง

นอกจากนี้ เดนิลสันยังได้ถือเป็นนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงสุดในประวัติศาสตร์ของวี ลีกด้วย โดยจะได้รับเงินค่าเหนื่อย 12,000 เหรียญสหรัฐ (408,000 บาท) ต่อการลงสนาม 1 นัด และยังได้โบนัสอีก 5,000 เหรียญสหรัฐ (170,000 บาท) ต่อการยิงประตู 1 ลูกด้วย

พอเดนิลสันบินมาร่วมทีมไห่ฟงซึ่งอยู่กลาง ตารางของวีลีก เมื่อช่วงต้นเดือน บรรดาแฟนบอลของทีมจึงแห่กันไปต้อนรับอย่างคึกคักด้วยคาราวานมอเตอร์ไซค์ แถมยังโบกธง จุดดอกไม้ไฟเฉลิมฉลองกันเป็นการใหญ่ด้วย

แต่ยังไม่ทันจะ ได้สร้างสีสันให้กับลีกเพื่อนบ้านของเรา ก็มีข่าวออกมาว่าเดนิลสันช็อคแฟนบอลด้วยการโบกมือลาทีมไห่ฟงเสียแล้ว ทั้งที่ลงสนามให้ทีมไปได้แค่ครึ่งเกมเท่านั้น!!!

สหพันธ์ฟุตบอลเวียดนาม แถลงว่าเดนิลสันอำลาทีมไห่ฟงไปเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน และเดินทางกลับบราซิลบ้านเกิดไปแล้ว

"เป็นอีกครั้งที่แฟนบอลต้องรู้สึกช็อค เหมือนเมื่อครั้งที่เขามาลงเล่นให้แฟนๆ ได้เซอร์ไพรส์เมื่อ 2-3 วันก่อน"

ทั้งนี้ แข้งแซมบ้าเพิ่งมีโอกาสได้ลงประเดิมสนามให้ไห่ฟงในช่วงครึ่งแรกของนัดที่ ถล่ม ฮองอันห์ ยาลาย ทีมแชมป์เก่า 3-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี่เอง และยังเป็นคนยิงฟรีคิกให้ทีมได้ประตูตั้งแต่นาทีแรกของนัดดังกล่าว รวมถึงยังเปิดบอลให้เพื่อนทำประตูที่สองได้ด้วย แต่ช่วงครึ่งหลังเจ้าตัวกลับทำได้เพียงดูเพื่อนร่วมทีมเล่นเท่านั้น เพราะมีอาการเจ็บที่ขาขวา

"เดนิลสันบอกว่าอาการเจ็บขาของเขายังฟื้นตัว ได้ไม่เต็มที่ และรู้สึกไม่สะดวกใจนักที่จะเล่นต่อที่เวียดนาม เขาจึงขอยุติสัญญาที่ทำเอาไว้กับทีม" วอง เตียน ดุง โค้ชของทีมไห่ฟงชี้แจงถึงเหตุที่ต้องเลิกเล่นก่อนหมดสัญญา 6 เดือน ซึ่งมีเงื่อนไขระบุว่าจะจ่ายค่าเหนื่อยให้ตามจำนวนนัดที่ลงสนาม

ก่อนหน้านี้ แฟนบอลไห่ฟงก็ออกอาการผิดหวังกันมารอบนึงแล้ว เพราะเดนิลสันไม่ได้ลงเล่นให้ทีมใน 2 นัดแรก โดยกองเชียรร่วม 30,000 คนในสนามไห่ฟง สเตเดียมต้องรอเก้อ เมื่อไม่เห็นนักเตะดังลงสนามแต่กลับนั่งดูเพื่อนร่วมทีมอยู่บนอัฒจันทร์แทน แถมทีมก็แพ้ด้วยในนัดนั้น ทำเอาแฟนบอลไม่พอใจและก่อเหตุวุ่นวายเผาเก้าอี้บนอัฒจันทร์บางส่วน ครั้นพอได้ลงสนามให้ทีมเป็นหนแรกก็ยังมาเจ็บเสียอีก ทั้งที่มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้าชัยชนะได้

"ทุกคนก็เห็นว่าเขาวิ่งได้ลำบาก ถ้าไปกดดันให้เขาเล่นต่อ ย่อมมีผลต่ออาชีพค้าแข้งของเขาแน่ๆ"

เดนิลสัน ถือเป็นนักเตะพเนจรคนหนึ่งนับตั้งแต่ผละจากทีมในบ้านเกิด เซา เปาโล สโมสรแรกในชีวิตค้าแข้งที่เล่นอยู่นานถึง 4 ปี (1994-1998) ก่อนจะย้ายซบ รีล เบติส ในปี 1998 เพราะทีมดังของสเปนชื่นชอบฟอร์มการเล่นเมื่อครั้งรับใช้ทีมชาติในศึกโคปา อเมริกา ปี 1997

แต่พอเบติสตกชั้นในปี 1999 เดนิลสันก็ถูกปล่อยตัวไปเล่นให้ ฟลามิงโก ทีมในบ้านเกิดด้วยสัญญายืมตัว ก่อนที่เบติสจะขายต่อให้ บอร์โดซ์ ทีมดังของฝรั่งเศสในปี 2005 แต่ด้วยค่าเหนื่อยที่สูงเกินจะรับภาระได้ไหว สุดท้ายบอร์โดซ์ก็ไม่ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่หลังหมดสัญญาในปี 2006

เดนิลสันจึงย้ายไปค้าแข้งในซาอุดีอาระเบียกับทีม อัล-นาสเซอร์ ที่มีกำลังจ่ายค่าเหนื่อย ในปี 2007 แต่เล่นให้ทีมได้แค่ 15 นัด ปีกชื่อดังก็บินข้ามทวีปไปเล่นให้ เอฟซี ดัลลัส ในเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ของสหรัฐอเมริกาแทน

ชีวิตค้าแข้งของเดนิลสันในสหรัฐเองก็ไม่ได้ราบรื่นนัก เพราะจากผลงานเล่น 7 นัด ยิงได้ 1 ประตู จากลูกยิงที่จุดโทษ ทำให้เขาถูกตัดชื่อออกจากโผทำศึก "ยูเอส โอเพ่น คัพ" ที่จำกัดจำนวนนักเตะต่างชาติไว้เพียง 5 คนในการลงสนามแต่ละนัด ก่อนจะขายทิ้งแบบถูกๆ

ในต้นปี 2008 เดนิลสันจึงกลับบ้านเกิดไปเล่นให้ทีม พัลไมรัส ด้วยสัญญา 1 ปี เพราะเชื่อว่าประสบการณ์การคุมทีมอย่างโชกโชนของ วันเดอร์เล ลุกชอมบูร์โก้ อดีตโค้ชทีมชาติบราซิล จะช่วยให้เขากลับคืนฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง

ขณะที่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เดนิลสันเกือบจะได้ย้ายมาค้าแข้งในอังกฤษด้วย แต่ โบลตัน ไม่สนใจที่จะเซ็นสัญญาหลังได้ลองมาทดสอบฝีเท้ากันอยู่ช่วงหนึ่ง ทำให้นักเตะวัย 31 ยังวนเวียนอยู่กับทีมในบราซิลตามเดิม โดยเซ็นสัญญากับ อิตัมเบียร่า เป็นเวลา 3 เดือน ก่อนจะลงเอยกับทีมไห่ฟงในเวียดนามเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน

ไห่ฟงจึงถือเป็นทีมล่าสุดที่เดนิลสันเซ็นสัญญาด้วย แต่ก็เป็นการร่วมทีมในช่วงระยะเวลาที่สั้นที่สุดด้วยเช่นกัน แม้ว่าเดนิลสันเคยพูดเอาใจแฟนบอลไว้ว่าอยากจะอยู่ที่เวียดนามไปนานๆ ก็ตามที

เพราะสุดท้ายแล้วก็ทิ้งทีมไปแบบไม่มีการร่ำลาใดๆ และกลับไปตายรังที่บราซิลตามเดิม โดยที่ยังไม่รู้ว่าชีวิตค้าแข้งนับจากนี้จะไปลงเอยที่ไหนอีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น