Pages

AL CAPONE


เราคงเคยได้ยินคำว่า "มาเฟีย" ในภาพยนตร์ ฮอลลีวูด
เราคงเคยได้ยินคำว่า "เจ้าพ่อ" ในภาพยนตร์ ไทย
เราคงเคยได้ยินคำว่า "อิทธิพลท้องถิ่น" ซึ่งเป็นปัญหาในสังคมไทย

เกาะชิชิลี่ ในประเทศอิตาลี่ ถิ่นกำเหนิด ตำนาน มาเฟีย
พฤติกรรมนักเลง และอันธพาล มีอยู่ในทุก ๆ สังคม มาแต่โบราณ

แต่มักจะไม่มีการพัฒาเป็นองค์กรที่ถาวร และสืบทอดอำนาจได้
ในหลาย ๆ สังคม นั่นอาจเป็นเพราะ ในสังคมเหล่านั้น
มีวัฒนาธรรมบางอย่าง ที่ไม่เอื้ออำนวย ต่อองกรค์มาเฟีย
เช่น วัฒนธรรมการเสียสละเพื่อส่วนรวม เอิ้อเฟื้อเผี่อแผ่ซึ่งกันและกัน

สุภาษิตของชาวชิชิลี่ คือ "ผู้ชาย ที่อยู่กับเย้า เฝ้ากับเรือน ไม่ใช่ลูกผู้ชาย"

ในยุคที่อเมริกา เริ่มมีความเจริญ ทางอุตสาหกรรมนั้น
องค์กรมาเฟียก็มีการพัฒนา ตามผลประโยชน์ที่มีมากขึ้น

Al Capone มีเชื้อสายชิชิลี่ เกิดในปี 1899
เป็นลูกคนที่ 4 ใน 9 คนของช่างตัดผม ในเมือง New York
เขาถูกไล่ออกจากโรงเรียน เนื่องจากมีพฤติกรรมรุนแรง
ตอนอยู่ชั้น ป. 6 อายุ 14 ปี จากนั้นก็หางานทำ และเปลี่ยนไปหลายแห่ง

จนถูกชักนำ เข้าร่วมแก๊งมาเฟีย Johnny Torrio
เขาเติบโตในแก๊งมาเฟีย ได้เป็นลูกน้องของ Frankie Yale
ผู้ซึ่งต่อมาได้ขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊งแทนคนเดิม

Al Capone แต่งงานเมื่ออายุ 29 ปี ในปี 1918
และ 3 ปีต่อมา ได้ย้ายจาก New York ไปยัง Chicago ในปี 1921
เพื่่อการขยายธุรกิจของแก๊งมาเฟีย แต่ใน Chicago เองก็มีแก๊งมาเฟียอยู่มากมาย
ทำให้เกิดการแก่งแย่ง ผลประโยชน์ การเข่นฆ่ากัน ระหว่างแก๊ง เกิดขึ้นตลอดเวลา

Al Capone พัฒนาองค์กรมาเฟียของเขา ได้อย่างรวดเร็ว ในเวลาเพียง 2-3 ปี
เข่นฆ่าฝ่ายตรงข้ามไปมากมาย ขยายงานไปยัง ธุระกิจการพนัน และโสเภณี
จนมีผลประโยชน์ เพิ่มมากขึ้น และความยิ่งใหญ่ ของแก๊ง Al Capone
คือการผลิตและจำหน่ายสุราเถื่อน ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดทางนโยบายของรัฐบาลกลาง
ซึ่งออกกฎหมาย Volstead Act ซึ่งห้ามทำการขาย และขนส่ง สุรา ในสหรัฐ ในปี 1919
และต่อมา ได้ยกเลิก ในปี 1933

ในปี 1923 รัฐบาลเมือง Chicago ได้แก้ปัญหา ด้วยการผลักดัน
แก๊งมาเฟีย Al Capone ออกนอกเมือง พวกเขาจึงย้ายสำนักงานใหญ่ไปยังเมือง Cicero
แต่นั่นกลับกลายเป็น การเพิ่มความยิ่งใหญ่ ให้กับองค์กรมาเฟีย Al Capone
เพราะพวกเขาได้ยึดอำนาจรัฐบาลท้องถิ่น จนเมืองทั้งเมืองเป็นของ Al Capone

การปราบปราม แก๊งมาเฟีย ได้ดำเนินการเรื่อยมา แต่ก็ไม่เคย ประสบความสำเร็จ
เพราะพื้นฐาน ของชาวชิชิลี่ มีกฎระเบียบที่เข้มแข็ง มีประเพณีปฎิบัติ มายาวนาน

หน่วยงาน Prohibition Bureau ซึ่งเป็นของ กระทรวงยุติธรรม
ต่อมาได้พัฒนาเป็น FBI (Federal Bureau of Investigation) ในปี 1935
ได้ทำการปราบปราม แก๊งมาเฟีย อย่างต่อเนื่อง แต่เจ้าหน้าที่บางคน
ก็ถุกซึ้อ ด้วยอำนาจเงิน ของแก๊งมาเฟีย ทำให้การปราบปราม ยิ่งมีความยากลำบาก
และยิ่งยากมากขึ้น เมื่อ Al Capone มีทนายที่เก่ง และมีความเชี่ยวชาญทางกฎหมาย
คดีหลาย ๆ คดี หลุดในชั้นศาล การปราบปราม ด้วยกฎหมายอาชญากรรม มีแต่ความพ่ายแพ้

ในปี 1926 Eliot Ness ผู้ซึ่งเรียนจบทางด้าน business and law ในระดับปริญญาตรี
และจบทางด้าน criminology ในระดับปริญญาโท มีพี่เขยทำงานอยู่ใน Prohibition Bureau
(ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็น FBI ในปี 1935) ได้เข้าทำงานกับพี่เขย และปีต่อมา ได้เข้ามารับผิดชอบ
การปราบปรามแก๊ง Al Capone การปราบปรามในช่วง 2 ปีแรก เน้นการใช้กฎหมายอาชญากรรม
ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จ จนถึงปี 1929 เริ่มมองหาวิธีอื่น เนื่องจาก Eliot Ness เรียนจบทางด้าน
business and law จึงมีความรู้กฎหมาย income tax evasion

Eliot Ness เปลี่ยนวิธีทำงาน แก้ปัญหา เจ้าหน้าที่ถูกซื้อด้วยเงิน จนข่าวการทำงานรั่วไหล
ด้วยการลดเจ้าหน้าที่ จาก 50 คน เหลือ 15 คน และสุดท้ายเหลือเพียง 11 คน
และเน้นการหาข้อมูลทางบัญชี ของธุระกิจ Al Capone และใช้ข้อมูลทางบัญชี
ดำเนินการทางกฎหมาย กับธุรกิจของ Al Capone การดำเนินการทางกฎหมายเริ่มได้ผล

และ Al Capone ถูกระบุว่า มีความผิดในศาล 22 คดี ในข้อหา เลี่ยงภาษี ติดคุก 11 ปี
ซึ่งเป็นสิ่งที่ เขาเองไม่เคยคาดคิดมาก่อน ทำให้ตำนาน เจ้าพ่อ Al Capone ที่ยิ่งใหญ่
ต้องจบลงที่คุก Alcatraz ซึ่งเป็คุกที่มีฉายาว่า "ไม่เคยมีใครหนีได้"

นั่นเป็นตำนาน ที่เราเรียนรู้ได้ว่า เจ้าพ่อที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนั้น

ถูกปราบปรามได้อย่างง่ายดาย ด้วยความรู้ทางบัญชี

ปัญหาอิทธิพลท้องถิ่น ปัญหาอิทธิพลของเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้น

เป็นปัญหาของการพัฒนาประเทศ

ทำไม..เราไม่ปราบปรามด้วย...วิชาชีพบัญชี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น